โฟล์คสวาเกน ลงทุนอีก 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในควอนตัมสเคป สตาร์ทอัพที่แยกมาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด พัฒนาโซลิดสเตตแบตเตอรี่ (SSB) เทคโนโลยียุคใหม่ที่จะปลดล็อคข้อจำกัดของอายุแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า
โฟล์คสวาเกน เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงทุนอีก 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในบริษัทควอนตัมสเคป (QuantumScape) สตาร์ทอัพที่แยกมาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด พัฒนาโซลิดสเตตแบตเตอรี่ (SSB) ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์มุ่งหวังเป็นเทคโนโลยียุคใหม่ที่จะปลดล็อคข้อจำกัดของอายุแบตเตอรี่และระยะเวลาการชาร์ตที่รวดเร็วสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
ความสัมพันธ์ระหว่างโฟล์คสวาเกนกับควอนตัมสเคปซึ่งเกิดขึ้นจาก ไคล์เนอร์ เพอคินส์และโคสลา เวนเจอร์ ย้อนไปเมื่อปี 2012 โดยทั้งสองบริษัทได้ตั้งบริษัทร่วมลงทุนในปี 2018 เพื่อเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีโซลิดสเตตแบตเตอรี่และผลิตในปริมาณมากพอเพื่อการค้า
โทมัน ชมอล ประธานกรรมการบริหารกลุ่มชิ้นส่วนโฟล์คสวาเกน ซึ่งรับผิดชอบด้านแบตเตอรี่ทั้งหมดของบริษัทกล่าวว่า ในเดือนกันยายน ปี 2018 โฟล์คสวาเกนได้ลงทุนขั้นต้น 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในควอนตัมสเคปและครั้งนี้เพิ่มอีกจำนวน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีเป้าหมายเพื่อเร่งการร่วมพัฒนา
ทั้งสองบริษัทมีแผนที่จะตั้งโรงงานต้นแบบสำหรับการผลิตโซลิดสเตตแบตเตอรี่ในระดับอุตสาหกรรม โดยโฟล์คสวาเกน กล่าวว่า แผนการสร้างโรงงานต้นแบบจะชัดเจนภายในปีนี้
โดยเมื่อสองปีที่แล้ว โฟล์คสวาเกนตั้งเป้าที่จะสร้างสายการผลิตแบตเตอรี่เหล่านี้ภายในปี 2025
ปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้าใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งแบตเตอรี่หนึ่งก้อนมี 2 ขั้วไฟฟ้า ได้แก่ขั้วแอโนดหรือขั้วลบและแคทโธดหรือขั้วบวก อิเล็กโทรไลด์เป็นสารละลายที่มีเกลือของลิเธียมผสมอยู่ เป็นตัวนำที่ยอมให้ไอออนผ่านแต่ไม่ยอมให้อิเล็กตรอนไหลผ่าน โซลิดสเตตแบตเตอรี่ คือแบตเตอรี่แบบของแข็ง เป็นเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ใช้อิเล็กโทรไลต์ชนิดของแข็ง แตกต่างจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ใช้้อิเล็กโตรไลต์แบบสารละลายหรือเจล
นักพัฒนาชี้ว่าโซลิดสเตตแบตเตอรี่ สามารถช่วยกำจัดความเสี่ยงในการติดไฟออกไปได้ ทั้งยังส่งผลให้ความจุเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากมีช่องว่างที่น้อยลง เพราะของแข็งจะมีความหนาแน่นมากกว่าของเหลว ทำให้การชาร์จเร็วขึ้นและขนาดของแบตเตอรี่ลดลง แต่ความจุเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดเป็นพลังงานมากกว่าในขนาดเท่าเดิม รวมถึงสามารถออกแบบขั้วบวกขั้วลบได้ดียิ่งขึ้น เพราะว่าไม่มีของเหลวภายในก้อนแบตเตอรี่
อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายของโซลิดสเตตแบตเตอรี่ยังเป็นประเด็นท้าทาย แต่กระนั้นเทคโนโลยีแห่งอนาคตนี้ก็กระตุ้นให้ผู้ผลิตรถยนต์พร้อมที่จะเดินตาม บีเอ็มดับเบิลยู ฮอนด้า ฮุนได นิสสันและโตโยต้า คือผู้ผลิตรถยนต์ไม่กี่รายที่ลงทุนในด้านวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีโซลิดสเตตแบตเตอรี่
อ้างอิง: TechCrunch.com
