สตาร์ทอัพยูนิคอร์นปลดคนอีกระลอก เหตุเศรษฐกิจทรุดต่อเนื่อง

สตาร์ทอัพยูนิคอร์นจะยังคงสถานะความเป็นยูนิคอร์นต่อไปได้หรือไม่ ในยามที่เศรษฐกิจโดยรวมยังคงดำดิ่งอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สตาร์ทอัพรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกาต้องปลดพนักงาน

ในขณะที่เศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐอเมริกายังอยู่ในภาวะติดลบอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่ผลกระทบที่มีต่อบริษัทใหญ่ และผู้ประกอบการรายเอสเอ็มอีเท่านั้น ล่าสุดสตาร์ทอัพยูนิคอร์นชื่อดังอย่างน้อย 3 รายก็เตรียมปลดพนักงาน

ทั้งนี้ สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานเมื่อเร็วๆนี้ว่า ตัวเลขความมั่นใจของบริษัทรับสร้างบ้านลดฮวบต่ำสุดในประวัติศาสตร์ ในขณะที่ยอดขายธุรกิจค้าปลีกในเดือนมีนาคมลดลงเหลือเพียง 8.7 เปอร์เซนต์ ซีเอ็นเอ็น บิสสิเนส ยังได้รายงานว่าตัวเลขการผลิตของอเมริกาในเดือนเดียวกันลดลงเหลือ 5.4 เปอร์เซนต์ ซึ่งนับว่าตกต่ำที่สุดรอบ1 เดือนนับตั้งแต่ปี 1946

จึงไม่เป็นที่แปลกใจว่าการปลดพนักงานของสตาร์ทอัพยูนิคอร์นจะเกิดขึ้นตลอดปีนี้ โดยในเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจาก วิชั่น ฟันด์ของซอฟต์แบงค์ ถูกตัดเงินทุน โดยช่วงแรกของวิกฤติ Covid-19 ทำให้บริษัทใหญ่ๆ เช่น Bird และ TripActions ต้องลดพนักงานจำนวนมาก เพราะธุรกิจชะลอตัวเนื่องจากโรคระบาดส่งผลต่อเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ขณะเดียวกันบริษัทขนาดเล็กก็มีการปลดพนักงานในขนาดที่เล็กลงมา

เว็ปไซต์ TechCrunch รายงานสตาร์ทอัพยูนิคอร์น (บริษัทที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป) ของสหรัฐฯ ได้แก่ Opendoor สตาร์ทอัพในซานฟรานซิสโก ขายบ้านพักอาศัย สนับสนุนโดยซอฟต์แบงค์ ได้ประกาศลดพนักงานถึง 35 เปอร์เซนต์ ซึ่งนายอีริค วู ซีอีโอบริษัทกล่าวว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นการสร้างความมั่นใจว่าบริษัทจะยังคงดำเนินการตามพันธกิจ โดยพนักงานที่ถูกให้ออกจะได้รับเงินชดเชย 8 สัปดาห์และประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการเบิกย้อนหลังได้ 16 สัปดาห์ และตัวนายวูเองก็ได้สละเงินเดือนของตนในปี 2020 เป็นกองทุนเพื่อพนักงาน ทั้งนี้ Opendoor นับเป็นสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าสูงถึง 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากรอบระดมทุน 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา

Carta สตาร์ทอัพอีกรายในซานฟรานซิสโก เป็นแพล็ตฟอร์มบริการด้านการเงิน ก็ประกาศลดพนักงาน 16 เปอร์เซนต์ หรือ 161 ตำแหน่งงาน ก่อนหน้านี้แพลตฟอร์ม eShares ของ Carta เติบโตจากผู้ให้บริการแก่บริษัทเอกชนขนาดเล็กไปสู่บริษัทใหญ่ๆ และขยายบริการและซอฟต์แวร์มากขึ้น เมื่อเร็วๆ นี้ Carta ระดมทุนมากสุดถึง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยมูลค่าบริษัท 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว

ขณะเดียวกัน บิสสิเนส อินไซด์เดอร์ รายงานว่า Zume สตาร์ทอัพฟู้ดเทคที่มีกองทุนวิชั่น ฟันด์ของซอฟต์แบงค์เป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยมีมูลค่าบริษัทถึง 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปีที่แล้ว ได้ปลดพนักงานมากกว่า 200 ตำแหน่ง หรือคิดเป็นสองในสามของพนักงานทั้งหมดหลังจากที่ได้ลดคนไปแล้วเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดย Zume ได้ยกเลิกธุรกิจในส่วนการผลิตพิซซ่าด้วยหุ่นยนต์และดีลิเวอร์รี่ทั้งหมดเหลือเพียงการทำกล่องเท่านั้น ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีพนักงานประมาณ 100 คนจากเดิมที่มี 1,000 คนจากทั้งสามส่วนธุรกิจ จึงเป็นคำถามว่าจะยังคงนับว่าบริษัทเป็นสตาร์ทอัพยูนิคอร์นได้อยู่หรือไม่

Reference: TechCrunch, Business Insider, and The Business Journals