เอกสารข่าวเปิดเผยว่าการอัดฉีดเงินทุนครั้งใหม่นี้คาดว่าจะทำให้ฐานะทางการเงินของ Traveloka ดีขึ้น และทำให้บริษัทนำเสนอการบริการต่างๆ ในเชิงลึกมากขึ้น ได้แก่การสร้างพอร์ตด้านการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ในตลาดสำคัญๆ ตลอดจนถึงการเพิ่มโซลูชั่นการบริการทางเงิน
ทั้งนี้บริษัทกล่าวว่าธุรกิจตกต่ำเป็นประวัติการณ์จากผลกระทบของ Covid-19 ที่ส่งผลต่อภาคการท่องเที่ยวอย่างรุนแรง
“Traveloka เองก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโรคระบาด Covid-19 อย่างไม่ต้องสงสัย เราอยู่ในภาวะที่ธุรกิจตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่ตั้งบริษัทมา” เฟอร์รี่ อูนาร์ดิ ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอบริษัท Traveloka กล่าวและว่าในแต่ละวันมีการยกเลิกบริการ ขอคืนเงินและเปลี่ยนวันจองเพิ่มขึ้นถึงสิบเท่านับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าบริษัทได้ปลดพนักงานแล้ว 100 คน หรือประมาณ 10% ของพนักงานทั้งหมดในเดือนเมษายนช่วงที่เกิดโรคระบาด
ในเดือนพฤษภาคม พันธมิตรของบริษัทคือ Airy ซึ่งเป็นแอคกริเกเตอร์ด้านโรงแรมแบบประหยัดในอินโดนีเซียก็ปิดตัวเนื่องจากความตกต่ำทางเศรษฐกิจและการลดบุคลลากร
“ธุรกิจท่องเที่ยวกำลังเผชิญกับภาวะที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน Traveloka เองก็เช่นกัน ทีมผู้บริหารต้องใช้มาตรการที่ยากมากขึ้น เช่นการปรับโครงสร้างและการทำให้เกิดผลที่ดีที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงทางการเงินให้มากที่สุด” วิลสัน คัวคา แมนเนจจิ้งพาร์ทเนอร์บริษัทอีวี โกร์ธ กล่าว
อย่างไรก็ตาม Traveloka เผยว่าบริษัทมองเห็นการฟื้นตัวที่ดีของตลาดหลัก ๆ ทั้งหลายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวระยะทางสั้น ๆ และการจองที่พัก ตัวอย่างเช่นธุรกิจของบริษัทในเวียดนามก็กำลังเข้าใกล้ระดับช่วงก่อน Covid-19 ในขณะที่เมืองไทยก็กำลังอยู่ในระดับที่เกิน 50%
แม้ว่าอินโดนีเซียและมาเลเวียยังคงอยู่ในช่วงต้นของระยะการฟื้นตัว Traveloka กล่าวว่าบริษัทกำลังทำการปรับปรุงแบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่พัก เนื่องจากมีความต้องการด้านการเดินทางพักผ่อนระยะทางใกล้เกิดขึ้น
“เราเข้าใจว่าธุรกิจท่องเที่ยวอาจจะเผชิญความยุ่งยากนี้ต่อเนื่องไปอีก เมื่อเกิดการระบาดเวฟใหม่ๆ แต่เราก็เตรียมพร้อมเพื่อเผชิญกับความท้าทายและมั่นใจว่าเราพร้อมรับมือในตำแหน่งที่ถูกต้อง” อูนาร์ดิกล่าว
อ้างอิง: TechinAsia.com