มจธ.ตั้งเป้าผู้นำเทคโนโลยี EV พัฒนาระบบขนส่งไร้มลพิษ เปิดศูนย์วิจัย MOVE เป็นสนามทดสอบและแหล่งเรียนรู้ ดันไทยฮับอุตสาหกรรมยานยนต์ยุคใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ดร.ยศพงษ์ ลออนวล ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาความยั่งยืน หัวหน้าศูนย์วิจัย Mobility and Vehicle Technology Research Center (MOVE) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัย MOVE ได้มีการดำเนินงาน ร่วมเป็น พันธมิตร ทั้งกับภาครัฐเเละภาคเอกชน มีนโยบายการพัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวและ Entrepreneurial University และการสร้างผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลงออกสู่สังคม โดยมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในทุกกิจกรรม ทั้งการดำเนินงาน การเรียนการสอน การทำวิจัยและนวัตกรรม จนถึงการบริการวิชาการ เพื่อชุมชน และผู้ประกอบการ
โดยแนวทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ในประเทศ ควรเริ่มต้นในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อช่วยบรรเทาปัญหามลพิษจากการจราจรติดขัด และ ปัญหาโลกร้อนที่เกิดจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จึงจำเป็นต้องมีการส่งเสริมให้เกิดการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนโดยเฉพาะ แบตเตอรี่ ให้เกิดขึ้นภายในประเทศ เพื่อเป็นการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมพร้อมกับส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้สามารถแข่งขันในระดับโลก เนื่องจากการคาดการณ์ว่าในช่วงปี 2025 – 2030 ตลาด EV จะมีสัดส่วนไม่น้อยกว่า 30 %
ทั้งนี้ต้องส่งเสริมให้เกิด สถานีอัดประจุไฟฟ้า การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า การทำงานในเชิงวิชาการในเรื่องมาตรฐานยานยนต์ไฟฟ้า หรือหลักสูตรในสถาบันการศึกษา รวมถึงสนับสนุนให้ประชาชนใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น โดยได้ทำข้อเสนอการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าต่อภาครัฐในการผลักดันยานยนต์ไฟฟ้าให้เป็นรูปธรรม ได้แก่ การจัดทำแผนแม่บท EV อย่างเป็นรูปธรรม ส่งเสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า สนับสนุนการจัดทำมาตรฐานของยานยนต์ไฟฟ้าเเละชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริมการออกมาตรการกระตุ้นการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงส่งเสริมศักยภาพเเละพัฒนาบุคลากรไทย ด้านการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้สอดรับกับกระเเสยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังจะกลายเป็นกระเเสหลัก ซึ่งหากภาครัฐสนับสนุนอย่างจริงจังและต่อเนื่องจะสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันย่อมจะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
