การทำงานผ่านความร่วมมือ ทั้งในและต่างประเทศเป็นบทพิสูจน์แล้วว่า มีส่วนทำให้ “สตาร์ทอัพ”พัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของโลก ได้ตรงเป้าและรวดเร็วขึ้น
สัญญาณเตือนโควิด-19 จาก “สตาร์ทอัพ” ก่อนเชื้อระบาด ขณะที่ เรจินาด์ล สวิฟ ทดสอบชุดตัวอย่างที่ได้รับจากเอเซีย เขามองเห็นไวรัสที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก จากประสบการณ์การศึกษาโรคติดเชื้อในแอฟริกาตะวันตกและในอินเดีย ทำให้เขารู้ว่าสิ่งที่เห็นอยู่นั้นเป็นอะไรที่ร้ายแรงอย่างยิ่ง
สวิฟ คือผู้ก่อตั้งและซีอีโอบริษัท Rubix Life Sciences สตาร์ทอัพในเมืองลอร์เรนซ์ แมสซาจูเสสผู้สร้างโมเดลเพื่อต่อสู้กับโรคติดเชื้อและโรคหายาก หน่วยวิจัยของบริษัทนี้ได้ศึกษาความหลากหลายของคนไข้ที่เซ็นต์เข้าร่วมทดลองการใช้ยาเพื่อรักษาโรคติดเชื้อและโรคหายาก
ในเดือนธันวาคม 2019 เมื่อองค์กรวิจัยซึ่งเป็นพันธมิตรกับบริษัทได้รับงานชุดทดสอบกับสัตว์ทดลอง พวกเขาต้องการจะรู้ให้ว่าอะไรทำให้ปศุสัตว์อย่างวัว ไก่ และไก่งวงล้มตาย และถ้าสาเหตุคือเชื้อจุลินทรีย์ เชื้อนั้นจะแพร่มาสู่คนได้หรือไม่
หนึ่งในพันธมิตรของ Rubix คือโรงพยาลท้องถิ่นในฮ่องกงได้ติดต่อบริษัทในเดือนธันวาคมเนื่องจากพวกเขาไม่มีทรัพยากรเพียงพอที่จะทำให้เข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้ สวิฟกล่าวว่าจากการศึกษาโมเดล ไวรัสตัวนี้พัฒนาจากสัตว์และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วก่อนที่ทีมงานจะระบุได้ว่ามันคือโคโรน่าไวรัส และจากจุดนั้นมา ทีมวิจัยต้องทำงานอย่างหนักเพื่อต่อสู้กับไวรัสนี้
“มันเจริญเติบโตผิดปรกติ และพัฒนาตัวรวดเร็วเกินกว่าที่เราคาดคิด สิ่งแรกที่เราทำคือติดต่อศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ CDC เพื่อแจ้งว่าเราพบบางสิ่งบางอย่างที่เราจำเป็นต้องทำงานร่วมกับ CDC ทันที แต่ในขณะนั้นไม่มีใครให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง” สวิฟกล่าว
ในขณะที่ทีมของ Rubix Life Sciences team ไม่คาดคิดว่าการแพร่กระจายของโควิด-19 จะกลายเป็นโรคระบาด โมเดลงานวิจัยของพวกเขาบ่งชี้ว่าไวรัสตัวนี้ส่งผลกระทบต่อระบบชีวภาพของมนุษย์ อย่างมีนัยยะที่แตกต่างกันมากมายและเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จากจุดนั้น บริษัทจึงตั้งเป้าว่า จะต้องจัดการไวรัสตัวนี้ให้ได้ และถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องให้ความช่วยเหลือกับผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจอย่างรีบด่วนที่สุด
สตาร์ทอัพ Rubix ก่อตั้งในปี 2016 และเป็นที่ปรึกษาให้แก่หน่วยงานงานหลายแห่งในการวางแผนมาตรการเพื่อแก้ปัญหาวิบัติภัยอันเนื่องมาจากสารเคมี ชีวภาพและสิ่งแวดล้อม
“เป้าหมายของเราคือแจ้งให้หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่รับทราบเพื่อที่เราจะสามารถพัฒนาวัคซีนมาจัดการกับโรคระบาด” สวิฟกล่าว
เพื่อเดินเกมในเชิงรุกรวมทั้งจุดกระแสความสนใจ สวิฟและทีมงานได้ยื่นประกวดรางวัลนวัตกรรมกับสถาบันโรคติดเชื้อและโรคภูมิแพ้แห่งชาติเมื่อต้นเดือนมกราคม ไอเดียก็คือ สร้างชิ้นส่วนชิ้นงานนำร่อง คือหน้ากากตรวจจับแบบเรียลไทม์ โดยใช้เครื่องรับสัญญาณที่เป็น AI หน้ากากนี้ได้พัฒนาเพื่อตรวจจับการระบาดของเชื้อโรค อาทิ Leishmaniasis, Lassa, West Nile, Zika และต่อมาก็พัฒนาเพื่อตรวจจับ โควิด -19
บริษัทได้จัดสร้างหน้ากากต้นแบบจนสำเร็จและใช้ตรวจจับเชื้อโรค ซึ่ง ณ ขณะนั้นยังเป็นวันที่ 4 มกราคม โดยต่อมา ข่าวที่เกิดการติดเชื้อโคโรน่าไวรัสเคสแรกในสหรัฐอเมริกา คือวันที่ 20 มกราคม
สวิฟตระหนักดีกว่า เวลาเริ่มกระชั้นชิดเข้ามามากขึ้น ขณะที่เขารอการตอบรับจากสถาบันฯ เขาก็ได้ส่งหน้ากากไปให้หน่วยงานพันธมิตรต่างๆ ในฟิลิปปินส์และไต้หวัน เพื่อเก็บข้อมูลซึ่งเขาจะได้นำเสนอต่อ CDC ในลำดับต่อมา
กลางเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากประเมินสถานการณ์ที่มีการผันผวนไปอย่างรวดเร็ว สวิฟและทีมงานเริ่มใช้อุปกรณ์ที่พัฒนาขึ้นมาเอง เพื่อมอนิเตอร์อาการระดับโลกของไวรัส ผ่านความร่วมมือกับโรงพยาบาลต่างๆ ติดตั้งอุปกรณ์ในโรงพยาบาลในสหรัฐอเมริกา แคนาดารวมทั้งในจีน อุปกรณ์ดังกล่าวช่วยให้โรงพยาบาล สามารถมองเห็นการแพร่ระบาดของไวรัสแบบเรียลไทม์ ซึ่งนั่นก็ทำให้พวกเขาสามารถปรับแผนยุทธศาสาตร์รวมทั้งซัพพลายต่างๆ ที่จำเป็น ต่อการตรวจหาไวรัสให้กับผู้ป่วยที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในสถานการณ์ความเป็นความตาย ทีมของสวิฟต้องทำงานแข่งกับเวลา เพื่อว่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โรงพยาบาลและคลีนิครักษาผู้ป่วยทั่วโลก จะได้มีเครื่องไม้เครื่องมือที่จำเป็นเพื่อต่อกรกับไวรัสคร่าชีวิต สตาร์ทอัพ Rubix ยังได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของทีมทำเนียบขาว เพื่อทำงานร่วมกันในการแก้ปัญหาการระบาดของโรคที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ที่มา : americaninno.com
play youtube,
play youtube,
xnxx,
xhamster,
xvideos,
xnxx,
xxx,
sex việt,
Phim sex,
tiktok download,
MP3 download,
Fragrance Mont Blanc,
phim sex hay,
sex mex,
mp3play,
Crossing Jorden,
Related Posts
มุมมองนักลงทุนชั้นนำทั่วโลกต่อโควิด-19วิกฤตการณ์สินเชื่อซับไพรม์ในช่วงปี 2008 หรือที่รู้จักกันดีในนาม “วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์” ที่เกิดจากความซบเซาของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา จนนำไปสู่ความคล่องตัวของตลาดสินเชื่อทั่วโลกและระบบธนาคารลดลง ทำให้ปัญหาทางการเงินแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ส่วนวิกฤตการณ์โควิด-19 ในขณะนี้ทำให้ระบบเศรษฐกิจทั้งโลกต้องหยุดชะงักจากการปิดประเทศ กักตัว และเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนอาจนำไปสู่ปัญหาทางเศรษฐกิจโลก และเปลี่ยนระบบนิเวศน์ของวิสาหกิจเริ่มต้นไปสู่จุดที่ยากจะจินตนาการได้ หากสภาพการณ์ยังคงดำเนินต่อไปเช่นนี้
Startup Nation : Startup Thailand 2019การจัดงาน Startup Thailand 2019 ภายใต้แนวคิด Startup Nation ประเทศไทยได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่แข็งแกร่งพร้อมระบบนิเวศที่แข็งแรงยิ่งขึ้น ในฐานะประเทศไทยให้การสนับสนุนและส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) อย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม เพื่อนนำประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Global Startup Hub…