ผู้ประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพจำนวนมากประสบความสำเร็จจากการก้าวเข้าสู่ธุรกิจนั้นๆ ก่อนใคร ด้วยการสร้างเสริมประสบการณ์จากปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่ผลักดันให้จำเป็นต้องพัฒนาตนเองอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ผู้ประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพอีกหลายๆ คนประสบความสำเร็จจากประสบการณ์เดิมที่สั่งสมมา และนำมาใช้ต่อยอดกับธุรกิจใหม่ของตัวเอง
หากเปรียบเทียบกับต่างประเทศแล้ว วงการฟินเทค (Financial และ Technology : FinTech) หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการเงินของประเทศไทยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และมีผู้ประกอบการในแวดวงนี้ไม่มากนัก เนื่องจากความแตกต่างทางวัฒนธรรมในการลงทุนของประเทศไทย ข้อกฎหมาย และพฤติกรรมของนักลงทุน
“ความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงินเป็นสิ่งที่นักลงทุนชาวไทยต่างให้ความสำคัญเป็นที่สุด ดังนั้น การทำธุรกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน โดยเฉพาะการลงทุน จะเป็นการทำผ่านพนักงานหรือผู้ให้คำปรึกษาด้านการเงินมากกว่าการทำธุรกรรมด้วยตนเองผ่านแพลตฟอร์ม” คุณชยนนท์ รักกาญจนันท์ Chief Executive Officer, Co-Founder บริษัท ฟินโนมีนา จำกัด กล่าว
ฟินโนมีนา คือ แพลตฟอร์มด้านการลงทุนที่เป็นตัวแทนจำหน่ายกองทุนของทุกสถาบันการเงินในประเทศไทย ในฐานะ ‘บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน’ ที่ได้รับการรับรองจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เปรียบได้กับซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีกองทุนต่างๆ ให้นักลงทุนเลือกช้อปได้ตามสะดวก โดยไม่มีการแบ่งสี แบ่งค่าย และมีผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินคอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับความเสี่ยง มูลค่าผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับ รวมไปถึงบริการเครื่องมือช่วยแนะนําและตัดสินใจ ไปจนถึงระบบแพลตฟอร์มลงทุนจริง
“ด้วยประสบการณ์จากการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินของธนาคารพาณิชย์มากว่า 12 ปี ทำให้ผมเห็นความต้องการของลูกค้า และโอกาสที่พวกเขาจะสามารถสร้างศักยภาพให้กับเงินทุนของตัวเองมากที่สุด แต่อาจถูกจำกัดด้วยเงื่อนไขของแต่ละธนาคารหลายๆ แห่ง” คุณชยนนท์ กล่าว
จนกระทั่งในปี 2559 ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ออกใบอนุญาตสำหรับตัวแทนขายที่ไม่ได้สังกัดธนาคาร ให้สามารถเป็นผู้บริหารจัดการเงินลงทุนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ฟินโนมีนาจึงก้าวเข้ามาเป็นฟินเทคสตาร์ทอัพอย่างเต็มตัว โดยร่วมอุดมการณ์กับผู้ก่อตั้งอีกสองท่าน คือ คุณเจษฎา สุขทิศ และ คุณกสิณ สุธรรมมนัส และได้รับทุนในการพัฒนาแพลตฟอร์มจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ผ่านโครงการ Open Innovation และได้รับคำปรึกษาจากกูรูด้านฟินเทคถึงความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ก่อนพัฒนาเป็นแพลตฟอร์มเต็มรูปแบบออกมา จนสามารถคว้ารางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2563 ซึ่งเป็นรางวัลเกียรติคุณ ด้านองค์กรนวัตกรรมดีเด่น ประเภทองค์กรภาคเอกชนขนาดกลาง ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่องค์กรที่มีการบริหารจัดการนวัตกรรมในองค์กร โดยนำความรู้ เทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์มาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดการสร้างคุณค่าทั้งในเชิงพาณิชย์ และการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กรตั้งแต่ระดับยุทธศาสตร์ กระบวนการ ถึงระดับโครงสร้าง
“เราออกแบบการลงทุนให้ลูกค้าด้วยระบบการจัดพอร์ตที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละท่าน โดยใช้เทคโนโลยีประมวลผลจากพฤติกรรมการลงทุน และความสนใจด้านการลงทุนที่ประเมินจากการอ่านบทความด้านการลงทุน รวมถึงแบบทดสอบที่บ่งบอกถึงระดับความเสี่ยงที่นักลงทุนพึงพอใจ พร้อมจัดให้มีผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเป็นผู้ให้คำปรึกษาที่เป็นกลาง ในการช่วยแนะนำกองทุนที่ใช่สำหรับลูกค้าก่อนตัดสินใจลงทุน” คุณชยนนท์ อธิบาย
คำจำกัดความของ ‘ความเป็นกลาง’ สำหรับฟินโนมีนาคือ การแนะนำกองทุนให้ลูกค้าโดยไม่คำนึงถึงค่าธรรมเนียมและส่วนแบ่งจากการขายที่บริษัทฯ จะได้รับ แต่เลือกจากกองทุนที่นักลงทุนจะได้รับผลประโยชน์มากที่สุด
“ในกรณีที่มีกองทุนมากกว่าหนึ่งกองทุน ที่มีคุณสมบัติในการให้ผลตอบแทนและระดับความเสี่ยงเท่ากัน เราจะเลือกกองทุนที่มีค่าธรรมเนียมน้อยกว่าให้ลูกค้า ซึ่งหมายความว่า เราจะได้รับค่านายหน้าลดลงไปด้วย” คุณชยนนท์ กล่าว
นอกเหนือจากนี้ ฟินโนมีนายังจัดให้มีพื้นที่ให้ความรู้ด้านการเงินและการลงทุนผ่านบทความจากกูรูด้านการเงินชั้นนำของประเทศไทย พนักงานของบริษัทผู้เป็นที่ปรึกษาด้านการเงิน รวมไปถึงตัวคุณชยนนท์เอง ซึ่งเป็นบล็อกเกอร์ เจ้าของนามปากกา ‘Mr.Messenger’ และเจ้าของเพจ ‘Sinthorn’ ที่เริ่มทำตั้งแต่เป็นพนักงานประจำเมื่อหลายปีก่อน
“การให้ความรู้กับนักลงทุนด้วยข้อมูลที่ทันเหตุการณ์และโปร่งใส คือ หัวใจสำคัญที่ฟินโนมีนายึดถือปฏิบัติ นอกจากบทความที่มีการเผยแพร่ผ่าน Live หรือ Podcast แล้ว เรายังมีข้อมูลอัปเดตสถานการณ์ตลาดหุ้นบนแพลตฟอร์มของบริษัทฯ เพื่อให้นักลงทุนมองเห็นภาพรวมของการลงทุน เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ”
การซื้อขายกองทุนผ่านการเป็นสมาชิกของแพลตฟอร์มฟินโนมีนา รวมทั้งการรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่บริษัทฯ จัดหาให้ เป็นบริการที่ไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งในปัจจุบัน ฟินโนมีนามีนักลงทุนบนแพลตฟอร์มกว่า 70,000 คน โดยในเดือนกรกฎาคม 2564 นี้ จะมีการพัฒนาระดับความปลอดภัยของแพลตฟอร์มด้วยระบบ Digital Identity Privacy ที่จะยกระดับสังคมไร้เงินสดให้ก้าวทัดเทียมนานาประเทศ
“รูปแบบของการลงทุนไม่ได้จำกัดอยู่แค่การซื้อขายกองทุน แต่รวมไปถึงเงินฝาก หุ้น หรือเงินคริปโต ที่เป็นเมกะเทรนด์ (mega trend) สำหรับนักลงทุนทั่วโลก ภารกิจของฟินโนมีนาในวันนี้และอนาคตคือ การให้ความรู้ด้านการลงทุนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนท่ามกลางความเสี่ยงต่างๆ ซึ่งความผันผวนเหล่านี้เป็นเทรนด์ที่ทำให้พวกเราชาวสตาร์ทอัพ ไม่ว่าจะอยู่ในวงการใด ได้เรียนรู้และเติบโตไปพร้อมๆ กัน” คุณชยนนท์ กล่าวย้ำ
