เจ้าหน้าที่รัฐกล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่าข้อระเบียบใหม่ที่ห้ามการส่งออกเทคโนโลยีได้แก่การวิเคราะห์เนื้อหา (text analysis) การจดจำเสียง (voice recognition) และคอนเทนต์ที่ยังไม่ได้ใบอนุญาตจากรัฐบาลจีน ดังนั้น ByteDance ควรพิจารณาหยุดการเจรจาขาย TikTok อย่างจริงจัง
ทั้งนี้ไมโครซอฟท์เป็นบริษัทแถวหน้าที่เจรจาซื้อกิจการ TikTok ร่วมกับวอลมาร์ท รวมทั้งยังมีทวิตเตอร์ เน็ตฟลิกซ์ ตลอดจนถึงออราเคิลต่างก็เจรจากับ TikTok เช่นกัน และท่ามกลางความโกลาหล เควิน เมเยอร์ ซีอีโอของ TikTok ได้ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา ทั้งที่อยู่ในตำแหน่งไม่ถึง 6 เดือน
ทั้งนี้ประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมสกัดกั้นธุรกิจทั้งหมดของ ByteDance และต้องการให้บริษัทอเมริกันซื้อกิจการของ TikTok โดยคำสั่งดังกล่าวมีผลภายใน 45 วัน ต่อมาในวันที่ 14 สิงหาคม ประธานาธิบดีได้เซ็นต์คำสั่งให้ ByteDance ขายหรือแยกกิจการของ TikTok ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาภายใน 90 วัน โดยมีคณะกรรมการการลงทุนของต่างชาติในสหรัฐอเมริกา (ซีเอฟไอยูเอส) ซึ่งดูแลเรื่องการซื้อขายกิจการบริษัทอเมริกันศึกษาความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ารัฐบาลจีนจะหาวิธีทางป้องกันการขาย TikTok ทั้งหมดหรือไม่อย่างไร
ทั้งนี้แพล็ตฟอร์มแบ่งปันวิดีโอ TikTok มียอดดาวน์โหลดทั่วโลก 2 พันล้านในเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยไตรมาสแรกมียอดถึง 315 ล้านดาวน์โหลดภายในปีเดียว
อ้างอิง: The Verge