ครั้งแรกในรอบ 8 ปี ไมโครซอฟท์มีมูลค่าเหนือกว่าแอปเปิล

30 November 2018 Technology

เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ความฮือฮาของบริษัทเทคโนโลยีคือการที่แอปเปิลก้าวขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ก่อนจะมีค่ายอเมซอนตามมาในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่ ณ ปัจจุบัน อาจเกิดการพลิกขั้วกันเล็กน้อย เมื่อไมโครซอฟท์ คู่แข่งตลอดกาลของแอปเปิลได้ก้าวแซงขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งไปแล้วเรียบร้อย

อย่างไรก็ดี สำหรับมูลค่าของไมโครซอฟท์ในตอนนี้ไม่ได้ทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐแต่อย่างใด โดยอยู่ที่ราว 813,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ความแข็งแกร่งของไมโครซอฟท์ในวันนี้ไม่ได้ใช้แค่มูลค่าของธุรกิจเป็นตัววัด ตรงกันข้าม เป็นเรื่องที่ซับซ้อนกว่านั้นพอควร เนื่องจากจุดแข็งของสององค์กรนี้ “แตกต่างกัน” จุดแข็งของแอปเปิลคือโปรดักส์อย่างไอโฟน ซึ่งปัจจุบันยอดขายไอโฟนเริ่มส่งสัญญาณอิ่มตัว และบริษัทตัดสินใจยุติการประกาศตัวเลขยอดขาย ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจ กลายเป็นมรสุมลูกใหญ่ที่พัดเข้าหาแอปเปิลจนทำให้หุ้นของบริษัทตกลงฮวบฮาบในช่วงที่ผ่านมา

ไมโครซอฟท์เอง ตลอดช่วงปี 2561 ก็ประสบปัญหาเช่นกัน และมีมูลค่าธุรกิจลดลง เพียงแต่หัวใจสำคัญของธุรกิจไมโครซอฟท์คือคลาวด์ ที่ยังไปได้ดี แถมอุปกรณ์เซอร์เฟส (Surface) ก็ยังพรีเมียมจนสามารถชิงแชร์บางส่วนมาจากผลิตภัณฑ์แมคของแอปเปิลได้ นั่นจึงทำให้นักลงทุนยังคงมอบความไว้วางใจให้ไมโครซอฟท์อย่างต่อเนื่อง และมีมูลค่าธุรกิจเหนือกว่าแอปเปิลอยู่ราว 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

การก้าวขึ้นนำแอปเปิลของไมโครซอฟท์ในครั้งนี้ยังถือเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี นับตั้งแต่ปี 2553 ด้วย แต่หากพิจารณาจากมูลค่ากิจการแล้ว ตอนนี้ทั้งไมโครซอฟท์ แอปเปิล รวมถึงอเมซอน ล้วนมีมูลค่าธุรกิจไม่ถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐกันทั้งสิ้น

สิ่งที่นักลงทุนมองเกมคือ ความเพลี่ยงพล้ำของแอปเปิลนั้นหนักกว่า เนื่องจากธุรกิจหลักของตนเองไม่สามารถทำรายได้ได้มากพอ และบริษัทก็ไม่สามารถผลักดันให้เกิดการซื้อสินค้าที่มีมูลค่าสูง เช่น ไอโฟนรุ่นใหม่ๆ หรือบริการบวกเพิ่มต่างๆ ได้มากเท่าที่ควร ส่วนไมโครซอฟท์ แม้จะมีปัญหาของตัวเองเช่นกัน แต่บริการคลาวด์อย่างอาชัวร์ และ Office 365 กำลังเติบโตได้ด้วยดี รวมถึงแพลตฟอร์ม Xbox ที่แม้จะตามหลังเพลย์สเตชั่นของโซนี่อยู่ แต่ก็กำลังจะมีการยกระดับสู่บริการด้านสตรีมมิ่งในชื่อ Xcloud ซึ่งใช้ประโยชน์จากอาชัวร์อีกทีเช่นกัน เหล่านี้ทำให้โซนี่ยากที่จะตามทันได้ในอนาคต สอดคล้องกับสิ่งที่สัตยา นาเดลลา ซีอีโอของไมโครซอฟท์ที่เคยกล่าวไว้ว่า กลยุทธ์ของไมโครซอฟท์คือการมุ่งสู่บริการผ่านคลาวด์และ Software Subscriptions ซึ่ง ณ ตอนนี้ถือว่าเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าแผนดังกล่าวประสบความสำเร็จ และทำให้บริษัทกลายเป็นเบอร์หนึ่งของวงการเทคโนโลยีได้ในที่สุด

อ้างอิง: arstechnica.com