2นวัตกรรมป้องกันเด็กหายลืมลูกไว้ในรถ

16 September 2020 Technology

เปิด 2 นวัตกรรมช่วยชีวิตเด็ก Save the kids ป้องกันลืมลูกไว้ในรถ ด้วยเทคโนโลยี Bio sensor และ IoT ตรวจจับความร้อนแจ้งเตือนบนแอปผ่านมือถือ พร้อมแจ้งเตือนหากคนขับรถโรงเรียนตีนผี GPS Watch POMO นาฬิกาติดตามตัวป้องกันเด็กหลงทาง หรือ เกิดเหตุฉุกเฉิน พ่อแม่หรือครูจะรู้พิกัดช่วยเหลือได้ทันท่วงที 

ปิติชัย ปิติมณียากุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทูแคนส์ จำกัด เปิดเผยว่านวัตกรรม Save the kids ป้องกันปัญหาการลืมเด็กไว้บนรถ ด้วยเทคโนโลยี ไบโอเซ็นเซอร์ หรือ Bio sensor ตรวจสิ่งมีชีวิตจากอัตราคาร์บอนไดออกไซด์ และความชื้นที่เกิดขึ้นจากการหายใจ เนื่องจากเมื่อเด็กถูกทิ้งไว้บนรถเป็นเวลานาน ร่างกายจะมีอุณหภูมิที่สูงมากกว่าปกติ ทำให้เกิดภาวะสูญเสียน้ำในร่างกาย และเด็กมีโอกาสเสียชีวิตได้ภายใน 2 ชั่วโมง หากร่างกายเริ่มร้อนความชื้นในร่างกายจะต่ำลง และจะมีการคายคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา

ทั้งนี้การทำงานจะเกิดขึ้นบนแพลตฟอร์ม IOT เครื่องจะเริ่มตรวจจับตั้งแต่ที่มีการดับเครื่องยนต์ หากมีคนติดอยู่ในรถประมาณ 15 นาที ระบบจะเริ่มวัดคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีอยู่ภายในรถ และหากพบว่ามีระดับคาร์บอนไดออกไซด์สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระบบจะส่งสัญญาณเตือนไปยังผู้ดูแลรถ หรือ ครู ผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งการแจ้งเตือนจะทำให้สามารถเข้าไปช่วยเหลือเด็กได้ทันท่วงที โดยระบบการทำงานของ Bio Sensor มีความแม่นยำ และช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของเด็กที่ติดอยู่ในรถได้มากถึง 95%

นอกจากนี้ มีนวัตกรรม จีพีเอส เซ็นเซอร์ หรือ GPS Sensor ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นกับรถรับ-ส่งนักเรียน หากคนขับรถมีพฤติกรรมการขับขี่ที่ประมาท หวาดเสียว ระบบจะแจ้งเตือนไปยังแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือของผู้ปกครองทันที และ ระบบยังสามารถแจ้งเวลาที่รถรับ-ส่ง จะเดินทางมารับเด็กได้อีกด้วย ซึ่งในอนาคตนวัตกรรมที่เข้ามาช่วยเหลือชีวิตและปกป้องสิทธิเด็กมีความจำเป็นมากขึ้น 

ฉัตรชัย ตั้งจิตรตรง ผู้ก่อตั้งบริษัท โพโมะ เฮาส์ จํากัด หรือ GPS Watch POMO นาฬิกาติดตามตัวเด็กป้องกันเด็กหาย กล่าวว่าเป็นนวัตกรรมที่ที่ใช้คู่กับแอปพลิเคชัน POMO Connect ซึ่งผู้ปกครองจะต้องดาวน์โหลดเพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับนาฬิกาเป็นระบบติดตามตัวผู้สวมใส่ด้วยกัน 3 ระบบ คือ ระบบ WIFI หากเด็กอยู่ในอาคารที่มี WIFI นาฬิกาจะแท็กสัญญาณอัตโนมัติ ทำให้ผู้ปกครองสามารถรู้พิกัดเด็กได้ทันที ระบบ GPS ทำหน้าที่ในการระบุตำแหน่งที่เด็กอยู่ จะใช้ในกรณีที่เด็กอยู่พื้นที่โล่งแจ้ง และระบบ A GPS ที่เข้ามาช่วยคำนวณตำแหน่งให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มระบบ Take me home ระบบบอกเส้นทางให้แก่เด็ก ซึ่งจะเป็นการสอนให้เด็กอ่านแผนที่เป็น รวมถึงปุ่ม SOS ที่หากเกิดกรณีฉุกเฉินจะสามารถกดและส่งการแจ้งเตือนไปถึงผู้ปกครองได้ ซึ่งจะบอกพิกัดได้อย่างแม่นยํา ทำให้ผู้ปกครองสามารถค้นหาเด็กได้รวดเร็วขึ้น ช่วยลดความกังวลของผู้ปกครองได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้มีการพัฒนาระบบ AI เข้าไปในนาฬิกา ให้เด็กสามารถพูดคุย เล่มเกมทายสัตว์ด้วยเสียง ช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งลดพฤติกรรมการติดหน้าจอได้ ใช้ได้ตั้งแต่เด็กอนุบาลไปจนถึงเด็กประถม ซึ่งถือว่าไม่มีความซับซ้อนในเชิงเทคนิคเพียงแค่สวมใส่ก็จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในตัวเด็กได้ทันที ขณะนี้ทางบริษัทยังได้วางแผนการพัฒนาให้ตอบโจทย์การดูแลเด็กได้มากขึ้น ด้วยการพัฒนาให้รองรับระบบ 4G รวมไปถึงการเพิ่มฟังก์ชันอื่น และการออกแบบให้ดึงดูดและน่าสนใจ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงานทั้งหมด และในอนาคตนวัตกรรมสำหรับเด็กมีโอกาสที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะในปัจจุบันผู้ปกครองหันมาให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ที่จะช่วยแจ้งเตือน และระบุที่อยู่ของลูกเพิ่มขึ้น ซึ่งเรื่องของความปลอดภัยเป็นสิ่งที่จำเป็นทั้งกับตัวเด็กและคนใกล้ตัว และเป็นสิ่งที่คุ้มค่าต่อการลงทุน