การให้บริการร่วมเดินทาง (Ride-Sharing) ถือว่าเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ระบบคมนาคมพื้นฐานยังไม่สามารถรองรับความต้องการของทุกคนได้อย่างเพียงพอ แต่ในวันที่ท้องถนนเต็มไปด้วยการแข่งขันของบริการ Ride-Sharing ข้ามชาติ ก็มีกลุ่มสตาร์ทอัพสัญชาติไทยในชื่อ Loops ที่มองเห็นอีกหนึ่งโอกาสซ่อนอยู่
ด้วยวิถีคนเมืองที่อยู่ในคอนโดมิเนียมและสภาพจราจรอันติดขัด อาจทำให้เจ้าของรถยนต์ส่วนตัวเหน็ดเหนื่อยและไม่ได้ขับออกมาทุกวัน โดยใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ได้ไม่เต็มที่
แพลตฟอร์ม haup car จะเป็นตัวกลางให้เจ้าของรถ มาพบกับผู้ต้องการเช่ารถขับชั่วคราว แม้ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงก็ใช้บริการได้
กฤษฎิ์ วิชัยวัฒนาพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้งร่วมของฮ้อปคาร์ ระบุว่าแนวคิดคาร์แชร์ริ่งแพร่หลายมากในประเทศพัฒนาแล้ว โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา แต่ที่น่าประหลาดใจคือในไทยกลับไม่มีการให้บริการ
ฮ้อปคาร์เห็นช่องว่างโอกาสดังกล่าว จึงได้พัฒนาแอปพลิเคชันการให้บริการรถเช่าเป็นแอปฯ คาร์แชริ่งสัญชาติไทยรายแรก โดยเริ่มต้นมีพันธมิตรบริษัทให้เช่ารถตลอดปีเศษที่ผ่านมา และล่าสุดบริษัทเตรียมเปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้ามาลงทะเบียนเป็นสมาชิกเพื่อนำรถออกให้บริการได้
ในฝั่งของผู้ใช้บริการ ก็ต้องลงทะเบียนและแสดงใบขับขี่ และจองรถผ่านแอปฯ โดยเลือกจุดจอดที่อยู่ใกล้ และเลือกเวลาที่ต้องการใช้ และยืนยันการจองตามที่ต้องการ ด้วยสนนราคาขึ้นกับประเภทรถยนต์ และจ่ายตามระยะทาง 5.9 บาท/กิโลเมตร เมื่อขับรถไปยังจุดหมายปลายทาง และนำรถกลับมาคืนตรงจุดจอดที่เดิม
นอกจากแพลตฟอร์มแล้ว บริษัทพัฒนาอุปกรณ์ติดตามและล็อกรถยนต์ ซึ่งป้องกันการฉ้อโกงและเจ้าของรถก็สะดวกไม่ต้องมาส่งกุญแจรถด้วยตนเอง สามารถใช้สมาร์ตล็อกให้ผู้จองใช้รถเปิด-ปิดรถได้ด้วยตนเอง
บริษัทได้เข้าร่วมในโครงการศึกษาความเป็นไปได้ของรถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบคาร์แชริ่งสำหรับประเทศไทยในอนาคต (Electric car sharing) ร่วมกับบีเอ็มดับเบิลยู มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และ ชไนเดอร์อิเล็กทริก (ไทยแลนด์)
อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในพันธมิตรของอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ให้บริการกับลูกบ้านของอนันดาที่ต้องการเช่ารถ โดยนำร่องในโครงการ ไอดีโอ คิว จุฬา สามย่าน และ ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท อีสท์เกสต์
ปัจจุบันบริษัทมีรถในเครือข่ายราวร้อยคัน และจะเพิ่มเป็น 400 คันในสิ้นปี อีกทั้งเพิ่มจุดรับรถให้มากขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการ
ทั้งนี้ เชื่อว่าคาร์แชริ่งจะเข้ามาตอบโจทย์คนเมืองในด้านความเป็นส่วนตัว และการใช้บริการชั่วคราวในระยะเวลาสั้นๆ พร้อมการประกันภัยรถยนต์ชั้นหนึ่ง
“จากการเปิดบริการที่ผ่านมา ลูกค้าเราไม่ได้เช่ารถแล้วขับไปทั้งวัน แต่จะมีการใช้งานจริงไม่กี่ชั่วโมง เช่น ออกไปซื้อของที่ต้องใช้รถยนต์ ออกไปกินข้าว หรือเช่ารถออกไปเที่ยวต่างจังหวัด และโดยมากเป็นคนรุ่นใหม่และนักศึกษา”
ข้อมูลจากการศึกษาของ UC Berkeley บริการคาร์แชริ่ง 1 คัน ช่วยลดการเป็นเจ้าของรถยนต์ส่วนตัวได้ถึง 20 คัน โดยเจ้าของรถยนต์สามารถเพิ่มรายได้อย่างน้อยหนึ่ง 10,000 บาท/เดือน
ปัจจุบัน บริษัทมีผู้ใช้แล้วถึง 8,000 คน โดยได้รับการลงทุนจากแองเจิล อินเวสเตอร์ ระดับ seed round อีกทั้งยังมีแผนการระดมทุนระดับซีรีส์เอราวไตรมาสแรกของปีหน้า เพื่อใช้ทำการตลาดให้การใช้งานแพร่หลายมากขึ้น
MOST POPULAR
