เฟซบุ๊กจัดหนักใช้ฐานเอสเอ็มอีไทยเพิ่มรายได้

4 June 2018 Corporate

คุณเคยสงสัยไหมว่าคนชาติไหนใช้เวลาเล่นเน็ตนานที่สุด จากข้อมูลเปิดเผยโดย Global Digital Report เมื่อเร็วๆ นี้ พบว่าอันดับ 1 เป็นของคนไทย โดยวันหนึ่งๆ ใช้เวลานานถึง 9.38 ชั่วโมง มากกว่าค่าเฉลี่ยของชาวโลกที่ใช้เวลาแค่ 6 ชม./วัน แถมยังเป็นอันดับ 8 ของโลกที่มีจำนวนผู้เล่นเฟซบุ๊กเยอะที่สุด และจากการวิเคราะห์ข้อมูลของเฟซบุ๊ก คนไทยใช้เวลาในนั้นนานเพราะเป็นคนบ้าช้อปปิ้ง

“จากข้อมูลนี้ เราถึงได้รู้ว่าเอสเอ็มอีไทยนี่เองที่เป็นแหล่งข้อมูลที่ช่วยให้เกิดการคิดค้นวิธีการทำธุรกิจใหม่ๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เนื่องจากคนไทยใช้เฟซบุ๊กเป็นที่นำเสนอสินค้าออกสู่ตลาด” จอห์น แวกเนอร์ กรรมการผู้จัดการเฟซบุ๊ก ไทยแลนด์ กล่าว

คนไทยมากกว่าร้อยละ 50 ซื้อขายออนไลน์ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นอันดับ 1 ของโลก ตามด้วยชาวอินเดีย มาเลเซีย จีน และตะวันออกกลาง

“เฟซบุ๊กเรียนรู้อีคอมเมิร์ซจากตลาดเอสเอ็มอีไทย ซึ่งช่วยให้เราคิดค้นโปรดักส์ใหม่ๆ ในการทำธุรกิจกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก

ปีที่แล้ว เราเป็นอันดับ 1 ในเอเชีย-แปซิฟิก และเป็นอันดับ 5 ของโลกที่ใช้ช่องทางส่งข้อความผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กในการทำธุรกิจ เอสเอ็มอีไทยใช้เฟซบุ๊กในการสร้างธุรกิจออนไลน์และขยายให้เติบโตได้ดี”

แวกเนอร์ยกตัวอย่าง 2 ร้านค้า Mom2babyshop ขายสินค้าแม่และเด็ก เข้าถึงลูกค้ากว่า 7 ล้านคน มีบทสนทนาผ่านแชตวันละ 1,000 ข้อความ และสร้างงานได้เป็นพันคน หรือ IMAX Powertool เพจขายสินค้าเครื่องมืออุปกรณ์ที่เริ่มต้นจากศูนย์แล้วสร้างฐานลูกค้าได้ถึง 6 ล้านคน และมีอัตราการเติบโตปีละ 100% ไม่แค่เฉพาะเอสเอ็มอีเท่านั้น บริษัทใหญ่ๆ ก็ใช้ออนไลน์ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย

นักธุรกิจชั้นนำของไทยร้อยละ 89 เผยว่าหากต้องการขยายธุรกิจในอนาคต การปรับองค์กรให้เข้ากับระบบดิจิทัลเป็นเรื่องสำคัญ แต่มีแค่ร้อยละ 29 เท่านั้นเข้าสู่ระบบดิจิทัลได้แบบฟูลสเกล

แวกเนอร์ชี้ว่าประเทศไทยยังมีโอกาสที่จะขยายธุรกิจได้นับหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หากมีการใช้กลยุทธ์ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งมาช่วยแบบถูกวิธีก็จะขยายได้เร็วขึ้นและเข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เฟซบุ๊กจึงคิดหาวิธีที่จะสร้างความสัมพันธ์ในฐานะคู่ค้ากับผู้ค้าออนไลน์เหล่านี้ โดยการฝึกอบรมให้ความรู้ผู้ค้าเอสเอ็มอีให้มีทักษะในการทำธุรกิจบนเฟซบุ๊ก เพื่อจะได้ขยายธุรกิจบนแพลตฟอร์มนี้

เฟซบุ๊กได้เชิญนักออกแบบซอฟต์แวร์ให้เข้าร่วมแฮคคาทอน “Hack for Good” เพื่อพัฒนาโซลูชั่นใหม่ที่ตอบโจทย์อีคอมเมิร์ซ

Think Before You Share ก็เป็นหนึ่งในโปรแกรมที่เฟซบุ๊กเปิดขึ้นเพื่ออบรมการใช้โซเชียลมีเดียอย่างปลอดภัยและไม่สร้างปัญหา โครงการเหล่านี้จะทำให้มีการใช้เฟซบุ๊กมากขึ้นในหมู่คนไทย ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ถึง 51 ล้านคน หรือพูดง่ายๆ มีเพียงคนสูงอายุและเด็กเล็กเท่านั้นที่ไม่มีบัญชีเฟซบุ๊กนั่นเอง

Market trend-Facebook SME


อ้างอิง: Bangkok Post 

ภาพ: Forbes Thailand