อาลีบาบาทำสถิติเทศกาลคนโสดอีกครั้ง หลังจากสามารถสร้างกระแสให้ผู้คนจากทั่วโลกมาร่วมช้อปได้ในวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยในปีนี้ อาลีบาบาทำยอดขายในวันคนโสดได้มากถึง 30,008 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งยังเป็นการฉลองครบรอบ 10 ปีเทศกาลคนโสดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาอีกด้วย
โดยหากเปรียบเทียบการใช้จ่ายของผู้คนบนแพลตฟอร์มของอาลีบาบาในปีนี้กับการจับจ่ายบนโลกอีคอมเมิร์ซในสหรัฐอเมริกาแล้ว พบว่ามีมูลค่าเท่ากับการจับจ่ายในวันไซเบอร์มันเดย์และแบล็กฟรายเดย์เมื่อปี 2560 มารวมกัน แล้วคูณด้วยสองเลยทีเดียว
สิ่งที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งก็คือ เทศกาลคนโสดในปีนี้ อาลีบาบาใช้เวลา 15 ชั่วโมง 49 นาทีก็สามารถทำยอดขายเท่ากับเทศกาลคนโสดในปีที่ผ่านมาได้แล้ว (ประมาณ 20,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) อย่างไรก็ดี การเติบโตของยอดขายในปีนี้ พบว่าอยู่ที่ร้อยละ 27 จากปี 2560 ซึ่งนักวิเคราะห์ตะวันตกมองว่า เป็นการเติบโตที่ต่ำที่สุดเท่าที่อาลีบาบาเคยจัดเทศกาลวันคนโสดมาเลยทีเดียว เพราะขนาดในปี 2560 ยอดขายในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2560 ยังโตขึ้นกว่าปี 2559 ถึงร้อยละ 37 และนั่นทำให้นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า ไตรมาสนี้ อาลีบาบามีการเติบโตด้านรายได้ที่น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับ 7 ไตรมาสก่อน แม้ว่าหากมองในภาพรวมแล้ว รายได้ของอาลีบาบาต่อปียังคงเพิ่มขึ้นร้อยละ 54
สื่อตะวันตกชี้ว่า การเติบโตที่ลดลงนี้แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวจีนกลุ่มชนชั้นกลางเริ่มรัดเข็มขัดมากขึ้น ซึ่งข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนระบุว่า จีนมีประชากรที่อยู่ในกลุ่มชนชั้นกลางมากกว่า 300 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 1,400 ล้านคน และชนชั้นกลางของจีนนี้ถูกมองว่าเป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญของอาลีบาบาด้วย แต่ในมุมของ Joe Tsai ผู้บริหารระดับสูงของอาลีบาบากลับชี้ให้เห็นว่า “นักช้อปชาวจีนมองเทศกาลนี้เป็นโอกาสในการอัปเกรดไลฟ์สไตล์ของตนเอง และทำชีวิตให้สะดวกสบายขึ้นผ่านข้าวของเครื่องใช้ไฮเทค”
เหตุที่กล่าวเช่นนั้นเนื่องจากสินค้าที่มียอดขายเติบโตมากที่สุดบนแพลตฟอร์มของอาลีบาบาในปีนี้ก็คือ กลุ่มอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ, กลุ่มเครื่องใช้ในบ้าน และกลุ่มสกินแคร์นั่นเอง อาลีบาบายังบอกอีกด้วยว่า ในงานคอนเสิร์ตกาล่าดินเนอร์ที่บริษัทจัดขึ้นตั้งแต่คืนวันที่ 10 พฤศจิกายน และมีดาราเข้าร่วมมากมายนั้น มีผู้ชมมากกว่า 240 ล้านคนผ่านทางทีวี และแอปพลิเคชัน Youku ซึ่งเท่ากับ 1 ใน 5 ของประชากรจีนที่เฝ้าติดตามรายการดังกล่าวเลยทีเดียว
สำหรับทิศทางการเติบโตของอาลีบาบาในอนาคตนั้น แดเนียล ชาง กล่าวว่า “เสียงคือกุญแจสำคัญ” และสิ่งที่อาลีบาบาบาตัดสินใจทำก็คือ การเข้าไปลงทุนในสตาร์ทอัพชื่อ Rokid ผู้พัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ด้าน Voice Assistant การขยายตลาดต่างประเทศก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยในปีนี้ มีร้านค้าจากต่างแดนกว่า 200 ประเทศเข้าร่วมในเทศกาลคนโสด ซึ่งส่วนหนึ่งคือร้านค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มาจากแพลตฟอร์มลาซาด้า ซึ่งแดเนียล ชางกล่าวว่า สักวันหนึ่ง 11.11 จะเติบโตและกลายเป็นเทศกาลช้อปปิ้งของคนทั่วโลก อีกหนึ่งความสำเร็จที่อาลีบาบาฉลองในปีนี้ก็คือ จำนวนสินค้าที่บริษัทจัดส่งนั้นมีมากกว่า 1,000 ล้านแพ็คเกจ และบริษัทได้มีการปรับเปลี่ยนมาใช้กล่องพัสดุแบบรีไซเคิลได้เพื่อลดปัญหาขยะ ยิ่งไปกว่านั้น อาลีบาบายังออกแบบเส้นทางการจัดส่งของสินค้าให้สั้นที่สุด โดยเฉพาะสินค้าในหมวดอาหาร ซึ่งการจัดส่งระยะสั้นนั้น ช่วยให้บริษัทลดการใช้วัสดุแพ็คสินค้าให้น้อยลงได้ จากเทศกาลคนโสดที่บริษัทจัดขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อน และมีร้านค้าเข้าร่วมหลักสิบ ภายในระยะเวลา 10 ปี อาลีบาบาสามารถสร้างการเติบโตให้เทศกาลคนโสดมีร้านค้าต่างๆ เข้าร่วมมากกว่า 180,000 แห่งจากทั่วโลกได้ นั่นอาจทำให้ทั่วโลกต้องจับตาเทศกาลคนโสดให้มากขึ้นว่าอีเวนต์นี้จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจับจ่ายของผู้คนไปสู่ทิศทางใดต่อไปในอนาคต
อ้างอิง: TechCrunch.com
play youtube,
play youtube,
xnxx,
xhamster,
xvideos,
xnxx,
xxx,
sex việt,
Phim sex,
tiktok download,
MP3 download,
Fragrance Mont Blanc,
phim sex hay,
sex mex,
mp3play,
Crossing Jorden,
Related Posts
แกร็บเนื้อหอม บุ๊กกิ้งประกาศร่วมทุน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐข่าวคราวการลงทุนของไมโครซอฟท์ในบริการร่วมเดินทางอย่างแกร็บยังไม่ทันจางหาย ล่าสุด แกร็บ (Grab) ผู้ให้บริการร่วมเดินทางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับเงินลงทุนอีกครั้งมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากบุ๊กกิ้งโฮลดิ้ง (Booking Holdings) บริษัทผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยว หรือที่หลายคนรู้จักกันกับชื่อในอดีตว่า ไพรซ์ไลน์ (Priceline)