5 เทรนด์สาขาศึกษาต่อคนเจนวาย สู่ความสำเร็จผู้ประกอบการรุ่นใหม่

15 May 2018 Startups

ปัจจุบันสังคม มุมมอง อาชีพ ประกอบกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วส่งผลต่อค่านิยมทางการศึกษาของคนรุ่นใหม่ให้เปลี่ยนแปลงไปจากคนเจนก่อน ชาวเจน X หรือคนกลุ่มอายุ 40-50 ปี ต่างมุ่งหน้าที่จะเก็บดีกรีใบที่สองในสาขาการบริหารธุรกิจ หรือ MBA เพราะค่านิยมความสำเร็จคือการก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารระดับสูงขององค์กรชั้นนำ

ในขณะที่คนหนุ่มสาวในยุคเจน Y ช่วงอายุราว 20-30 ปีอัพ มีค่านิยมกลับด้าน เขาไม่เสียเวลาสะสมประสบการณ์และความร่ำรวยจากเงินเดือน แต่พร้อมมุ่งที่จะเป็นผู้ประกอบการ เป็นเจ้าของกิจการเสียเอง ต่างคิดว่ามีเงินมีทองใช้โดยไม่ต้องใช้เวลามาก มีอิสระในการใช้ชีวิต ไม่ต้องรอจึงถึงอายุ 60 ปีค่อยเกษียณ ซึ่งทำให้ startup เป็นกลุ่มที่ร้อนแรงที่สุดในปัจจุบัน

ดังนั้น สาขา MBA ยอดฮิตในอดีต จึงถูกทดแทนด้วย 5 สาขาวิชามาแรง ที่ตอบสนองความต้องการของคนเจน Y ได้ นั่นก็คือ Entrepreneurship, E-business, Digital Marketing, Brand Management และ Logistics and Supply Chain ทีนี้เรามาดูกันว่าแต่ละสาขาสุดฮิตเขาสอนเรื่องอะไรกันบ้าง

  1. Entrepreneurship : หลักสูตรเน้นความรู้และทักษะในการทำธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็ก SME และสตาร์ทอัพ ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณท์ การผลิต การขาย การทำการตลาด การเงิน การจัดทำแผนธุรกิจ การมีนวัตกรรม ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ รวมถึงเรียนรู้ case study ของผู้ประกอบการตัวจริงทั้งที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลวของโลก
  2. E-Business : หลักสูตรที่เน้นความรู้และทักษะการใช้เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ ในแทบทุกมิติของธุรกิจ ตั้งแต่การผลิต การตลาดออนไลน์ การขนส่งสินค้า การสั่งสินค้า การเงิน ลูกค้าสัมพันธ์ การบริหารลูกค้าที่เป็นออนไลน์ทั้งระบบ รวมถึงการวางกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับธุรกิจที่กำลังจะผันตัวเองเข้าสู่ธุรกิจยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ
  3. Digital Marketing: การศึกษาถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคในโลกออนไลน์ ประโยชน์และการเข้าถึงอุปกรณ์ของโลกดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นอินเทอร์เน็ต สมาร์ตโฟน รวมทั้งการพิมพ์สามมิติ ช่องทางของการตลาดดิจิทัล การวิเคราะห์การตลาดดิจิทัล การเพิ่มพูนทักษะการตลาดที่เข้ากับโลกออนไลน์ เช่น การประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดีย การเขียนคำโฆษณาประชาสัมพันธ์ และการสร้างสื่อโฆษณาผ่านโลกโซเชียล เป็นต้น
  4. Brand Management : หลักสูตรที่เชื่อมโยงระหว่าง creative, communication และ marketing มุ่งเน้นที่การสร้าง “ความแตกต่าง” มาผนวกกับกลยุทธ์ สู่การสื่อสารไปยังผู้บริโภคให้เกิดการรับรู้และยอมรับแบรนด์
  5. Logistics and Supply Chain Management : การเรียนรู้กระบวนการวางแผน ดำเนินการและควบคุมประสิทธิภาพของการไหลเวียนของสินค้าและบริการจากต้นทางการผลิตไปถึงมือผู้บริโภค ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ การจัดการคลังสินค้า การขนส่ง การควบคุมต้นทุน ซึ่งอันนี้คือเรื่องของ logistics ส่วน supply chain management หรือการจัดการห่วงโซ่อุปทาน เป็นเรื่องเกี่ยวกับการจัดการในกระบวนการที่เกิดขึ้นระหว่างผู้ขาย ผู้ให้บริการ และผู้ขายปัจจัยการผลิตหรือซัพพลายเออร์ โดยห่วงโซ่นี้จะไล่เรียงตั้งแต่การจัดซื้อวัตถุดิบ การผลิต การจัดเก็บสินค้า การจัดส่ง ไปจนถึงการจัดจำหน่าย ซึ่งในส่วนของ supply chain นี้ ต้องนำระบบ IT เข้ามาช่วยในการบริหารให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ทั้งหมดนี้เป็นสาขาที่มาแรงของนักศึกษาในยุคนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งความหวังว่าสาขาที่เรียนจบมาจะสนับสนุนแนวคิด สู่การเป็นสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จตามความต้องการของคนเจนY


อ้างอิง: Forbes Thailand