เปิดเส้นทาง “Eatigo รับเงินลงทุน & GO”

20 July 2018 Investment

ธุรกิจอาหารในประเทศกลุ่มอาเซียน อาจเป็นธุรกิจที่มีภาพการเติบโตอย่างสวยหรูหากมองจากภายนอก

แต่ล่าสุด ข่าวคราวการเข้าลงทุนในสตาร์ทอัพอย่าง อีททิโก (Eatigo) ของทริปแอดไวเซอร์ (TripAdvisor) อาจสะท้อนภาพบางอย่างที่บอกว่า มันอาจไม่ได้เป็นอย่างที่หลายๆ คนคิด

โดยจากการเปิดเผยของไมเคิล คลูเซล ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Eatigo ในฐานะธุรกิจที่ช่วยหาลูกค้าให้กับร้านอาหารต่างๆ ในเวลาไม่เร่งด่วนเพื่อแลกกับส่วนลดพิเศษ เผยว่า ในขณะที่มีการระบุตัวเลขยอดขายของร้านอาหารในอาเซียนว่าแตะระดับ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2558 นั้น ร้านอาหารที่เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งกลับมีอยู่เพียงร้อยละ 35 ของตลาดเท่านั้น เฉพาะธุรกิจร้านอาหารในสิงคโปร์อย่างเดียวอาจมีการขาดทุนมากถึง 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐในแต่ละปี ซึ่งทำให้อีททิโกใช้ประโยชน์จากช่องว่างของตลาดนี้นำเสนอบริการแก่ลูกค้าได้

สำหรับเงินลงทุนรอบใหม่นี้ Eatigo เผยว่าจะโฟกัสตลาดในเอเชียเป็นหลัก โดยปัจจุบัน Eatigo มีลูกค้ามากกว่า 4 ล้านรายใน 6 ตลาด ซึ่งตัวเลขนี้ได้รวมถึงฮ่องกง อินเดีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ที่เพิ่งรุกเข้าไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมาด้วย (การบุกตลาดอินเดียนั้น Eatigo ได้มีการควบรวมกิจการกับแอปพลิเคชัน Ressy ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านการจองร้านอาหารในอินเดีย)

ส่วนการเข้ามาร่วมลงทุนของ TripAdvisor และเว็บไซต์ด้านการจองร้านอาหารอย่าง TheFork นั้น นอกจากจะช่วยด้านเงินทุนแล้ว ยังสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้ Eatigo ได้ในแง่ของฐานข้อมูลที่ TripAdvisor อ้างว่ามีรายชื่อร้านอาหารมากกว่า 4 ล้านแห่ง และ TheFork ที่มีมากกว่า 50,000 แห่งใน 11 ประเทศ

นอกจากนั้น TripAdvisor ยังสามารถช่วย Eatigo ได้ในแง่ของการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การแชร์ประสบการณ์การวางโครงสร้างองค์กรและแนวทางการร่วมมือกับภาคธุรกิจด้วย

อย่างไรก็ดี การลงทุนครั้งนี้ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขว่า TripAdvisor ลงทุนเท่าไร แต่หากพิจารณาจากเงินลงทุนทั้งหมดที่บริษัทได้รับมาจนถึงวันนี้นั้น พบว่ามีมากกว่า 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว จากเดิมที่ในเดือนตุลาคม ปี 2559 บริษัทเคยมียอดเงินลงทุนทั้งสิ้นที่ 15.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงอาจเป็นไปได้ว่า เงินลงทุนนั้นอยู่ที่ราว 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

แต่เส้นทางของ Eatigo เมื่อเติบโตขึ้น คู่แข่งก็ยิ่งใหญ่มากขึ้น โดยคู่แข่งระดับภูมิภาคของ Eatigo เป็นได้ทั้ง Offpeak จากมาเลเซีย ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพในแนวใกล้เคียงกันที่เน้นการจองที่นั่งให้กับธุรกิจร้านอาหาร, หรือ Chope จากสิงคโปร์ สตาร์ทอัพด้านดิลิเวอรี่ที่บอกว่า แม้จะอยู่ที่บ้านก็สามารถรับประทานอาหารอร่อย ๆ ได้

โดยในมุมของนักวิเคราะห์มองว่า ผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากการที่ Eatigo เติบโตขึ้นมากที่สุด อาจเป็น Chope เนื่องจาก Eatigo อาจเติบโตขึ้นจนเกิดการ Cross-over ไปยังตลาดของ Chope ได้

ส่วนบริการอย่าง GrabFood และ Honestbee นั้น ไม่ใช่คู่แข่งโดยตรงของ Eatigo เนื่องจากทั้งสองแบรนด์ยังไม่มีความแข็งแกร่งในตลาดการจองร้านอาหารเท่ากับ Eatigo และต้องลงทุนอีกมากหากต้องการสร้างการรับรู้ในแบรนด์ให้เกิดขึ้นกับตลาดนี้

อย่างไรก็ดี TripAdvisor มีพาร์ทเนอร์กับ Chope และพบว่าผู้ใช้ TripAdvisorในสิงคโปร์ถูกนำพาไปยังเว็บไซต์ของ Chope เมื่อพวกเขาต้องการจองร้านอาหารด้วย ซึ่ง Eatigo น่าจะได้รับประโยชน์เช่นเดียวกันกับ Chope จากการลงทุนครั้งนี้


อ้างอิง: techinasia.com