สาวๆ ที่ไม่มีชายหนุ่มช่วยเข็นรถระหว่างซื้อสินค้าเข้าบ้านจะไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เมื่อซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งอนาคตจะมาช่วยตอบโจทย์ให้กับสาวทั้งหลาย โดยมีหุ่นยนต์มาเป็นผู้ช่วยแสนดีถือของเดินตาม แบบไม่มีเสียงบ่นอิดออดให้กวนใจอีกต่อไป
มาสัมผัสซูเปอร์มาร์เก็ตยุคดิจิทัลต้นแบบแห่งอนาคตกันได้แล้วที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ที่ห้าง 7Fresh ของ JD.com Inc ด้วยพื้นที่ 5,000 ตารางเมตร ครึ่งหนึ่งเป็นพื้นที่ขาย อีกครึ่งหนึ่งสำหรับคลังสินค้า พรั่งพร้อมไปด้วยสินค้ากว่าหมื่นรายการจากพันธมิตรกว่า 2,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นสินค้านำเข้าและอาหารสด
ดูแบบผ่านๆ 7Fresh ก็เหมือนซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปที่จะมีของสดใหม่ทุกวัน สภาพแวดล้อมสะอาด มีระเบียบ สินค้าหลากหลายให้พ่อบ้านแม่บ้านยุคใหม่ได้จับจ่ายใช้สอยได้อย่างจุใจ แต่ดาวเด่นของซูเปอร์แห่งอนาคตนี้อยู่ที่การใช้เทคโนโลยีล้ำยุคกลมกลืนไปกับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ได้อย่างน่าสนใจ
ด้วยหุ่นยนต์ต้นแบบทำหน้าที่เสมือนเป็น “smart shopping cart” ตะกร้ารถเข็นอัจฉริยะ ที่ทำให้สาวๆ เลือกจับจ่ายสินค้า พร้อมกับอุ้มลูกจูงหลานได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังกังวลกับการคอยเข็นรถอีกต่อไป โดยลูกค้าหรือผู้ซื้อสินค้าต้องสวม wearable device ของทางซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีไว้ให้บริการ เพื่อให้อุปกรณ์ส่งสัญญาณนำทางไปที่หุ่นยนต์
ระหว่างการซื้อสินค้า ผัก หรือผลไม้สด เมื่อวางสินค้าตรงแท่นอ่านข้อมูลบาร์โค้ดในบรรจุภัณฑ์ กระจกอัจฉริยะตรงชั้นวาง ก็จะอ่านข้อมูลและแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้านั้น ทั้งแหล่งที่มา การปลูก จนถึงน้ำหนักและข้อมูลทางโภชนาการของสินค้า
ทั้งนี้การตรวจสอบที่มาของอาหาร 7Fresh จะทำโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ที่ให้ข้อมูลด้านความปลอดภัยของอาหาร ตั้งแต่การผลิตจนถึงนำส่งสินค้า โดยเกิดจากความร่วมมือของ jd.com กับวอลมาร์ท ไอบีเอ็ม และมหาวิทยาลัยซิงหัว
สินค้ามีชีวิตบางประเภท เช่น ปลา หรืออาหารทะเลอื่นๆ 7Fresh จะฝังชิปมากับตัวปลาหรือสัตว์ทะเล เพื่อที่จะได้ตรวจสอบย้อนกลับไปได้ว่า ปลานั้นจับมาจากที่ไหน และได้มานานแค่ไหน เพื่อลูกค้าจะได้รับรู้ข้อมูลว่าสินค้ามีความสดใหม่เพียงใด
ในชั้นวางสินค้า จะใช้ป้ายราคาอิเล็กทรอนิกส์ที่จะทำให้ซูเปอร์มาร์เก็ตสามารถอัพเดทราคาสินค้าทั้งที่ชั้นวางและระบบออนไลน์ไปพร้อมๆ กันด้วย ช่วยลดแรงงานพนักงานในการปรับเปลี่ยนราคาสินค้าลง
การชำระเงินจะทำผ่านพนักงานที่เคาน์เตอร์ หรือจะชำระด้วยตนเองโดยการสแกนบาร์โค้ดสินค้าเข้าเครื่องระบบคำนวณเงิน แล้วลูกค้าจะชำระเงินผ่านระบบโมบายเพย์เมนท์ด้วยแอคเคานต์ WeChat eWallet ของ JD.com พร้อมใช้ระบบรู้จำใบหน้าที่ลงทะเบียนไว้กับแอปพลิเคชัน 7FRESH ในการตรวจสอบตัวตนเพื่อยืนยันการชำระเงินเพื่อการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดให้ลูกค้า
ส่วนคนที่ไม่มีเวลามาจับจ่ายสินค้าด้วยตนเอง ก็สามารถสั่งสินค้าออนไลน์ได้เช่นกัน เมื่อลูกค้าสั่งสินค้า ข้อมูลจะถูกส่งมายังซูเปอร์มาร์เก็ต แล้วพนักงานจะจัดสินค้าตามที่ระบุไว้ ส่งสินค้าเข้าสายพานอัตโนมัติเพื่อจัดส่งโดยจะทำได้ทันทีภายในเวลาเพียง 30 นาที แต่ลูกค้าควรจะอยู่ไม่เกินรัศมี 3 กิโลเมตรจากซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อการรับประกันความสดใหม่ เป็นการผสมผสานประสบการณ์ช้อปปิ้งในโลกออฟไลน์ และออนไลน์ได้อย่างลงตัว
ทั้งนี้ ปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่ของซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ จะเป็นคนหนุ่ม-สาวช่วงวัย 20-40 ปี ซึ่งซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งอนาคตนี้ยังมีสาขาอีกแห่งที่กรุงปักกิ่งด้วยเช่นกัน
JD.com เตรียมปูพรมเปิดพรีเมี่ยมซูเปอร์มาร์เก็ตแบบอัตโนมัติทั้งหมด 10 สาขาภายในสิ้นปีนี้ และจะขยับเป็น 1,000 สาขาภายใน 5 ปีข้างหน้าด้วย
เห็นปรากฏการณ์ดีๆ ที่นำความสะดวกสบายมาสู่ชาวปักกิ่งแบบนี้แล้ว แน่นอนว่า ซูเปอร์มาร์เก็ตไทยก็น่าจะมีการเปลี่ยนเแปลงในอีกไม่ช้าเช่นกัน อย่างที่เราเห็น auto self check out มาให้บริการเมื่อหลายปีที่แล้ว เหลือเพียงการให้ข้อมูลในการทำความเข้าใจกับลูกค้า เพื่อนำเสนอสินค้าได้คุณภาพสดใหม่ตรงกับความต้องการ และช่วยลดปริมาณสินค้าค้างสต็อก และในที่สุดก็จะนำไปสู่การจัดการห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพ ควบคู่กับประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อให้กับลูกค้านั่นเอง
play youtube,
play youtube,
xnxx,
xhamster,
xvideos,
xnxx,
xxx,
sex việt,
Phim sex,
tiktok download,
MP3 download,
Fragrance Mont Blanc,
phim sex hay,
sex mex,
mp3play,
Crossing Jorden,
Related Posts
ทำอย่างไรจะป้องกันการใช้ข้อมูลของคุณก่อนที่โลกเราจะมีอินเทอร์เน็ต เราก็ใช้ชีวิตง่ายๆ จดบันทึกทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับตัวคุณ เบอร์บัตรประชาชน เบอร์พาสปอร์ต เวลาเข้าห้องสมุดไปค้นข้อมูลก็มีคุณรู้อยู่คนเดียวว่าคุณสนใจข้อมูลเกี่ยวกับอะไร เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่คนรู้จัก ทุกอย่างอยู่ในสมุดโน้ตเล่มน้อยที่เป็นลายมือคุณ ซึ่งคุณอาจจะอ่านออกอยู่คนเดียว
Diamate สตาร์ทอัพนักปรับพฤติกรรมคนรักหวานปัญหาผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวานเป็นสิ่งที่แพทย์และนักโภชนาการกำลังวิตกกังวล เฉพาะในประเทศไทยปัจจุบัน มีผู้ป่วยเบาหวานเกือบ 5 ล้านคน และเติบโตในอัตราเกือบร้อยละ 8 ต่อปี ขณะที่ในระดับโลกนั้นมีผู้ป่วยเบาหวานแล้วกว่า 400 ล้านคน
Digital Butler แค่บอกมาแล้วผมจะหาให้ต้องบอกว่าทุกวันนี้เรามีผู้ช่วยอยู่ในแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อช่วยให้การงานของเราสำเร็จราบรื่นอยู่มากมาย แต่บางครั้งการมีแอปพลิเคชันอยู่ในสมาร์ตโฟนมากๆ นั้นก็กลายเป็นความยุ่งยาก