สิริ เวนเจอร์สลงทุนสตาร์ทอัพพลังงานลม Semtive 15 ล้านบาท

สิริ เวนเจอร์ส ประกาศลงทุนพลังสะอาดเพิ่ม โดยคราวนี้เป็นสตาร์ทอัพผู้พัฒนา Wind Turbine ชื่อ Semtive ด้วยงบลงทุน 15 ล้านบาท หวังต่อยอดในโครงการของแสนสิริ เพื่อสร้างประสบการณ์เชิงบวกให้ลูกบ้านในด้าน Renewable Energy

นายจิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี บริษัทสิริ เวนเจอร์ส จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่างแสนสิริและธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อทำการวิจัยและลงทุนด้าน Prop Tech เผยไฮไลต์นวัตกรรมด้าน “Wind Turbine” จาก Semtive สตาร์ทอัพชั้นนำผู้พัฒนากังหันลมสำหรับที่พักอาศัยจากสหรัฐอเมริกาที่สิริ เวนเจอร์สได้เข้าไปร่วมลงทุนว่า “Semtive เป็นสตาร์ทอัพที่มุ่งมั่นจะเปลี่ยนวิธีคิดของผู้คนทั่วโลกในเรื่องพลังงานสะอาดและสามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันในราคาที่เข้าถึงได้ โดย Semtive เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีกังหันลมเพื่อเปลี่ยนพลังงานลมเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยกระแสลมแรง สามารถนำมาใช้ได้บนพื้นที่จำกัดในเมือง เช่น บนหลังคาบ้าน หรือคอนโดมิเนียม และในตอนนี้ แสนสิริกำลังอยู่ในขั้นตอนการติดตั้งเซนเซอร์วัดระดับความแรงลมในโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ของแสนสิริเพื่อดูความเหมาะสมว่าโครงการใดเหมาะที่จะใช้นวัตกรรมนี้ และคาดว่าจะพร้อมใช้งานจริงในโครงการนำร่องของแสนสิริภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ด้วย”

สำหรับจุดเด่นของ Wind Turbine ของ Semtive นั้นคือการทำงานบนบล็อกเชน โดยในชุดอุปกรณ์จะมีตัว Inverter ที่ภายในมีบล็อกเชนอยู่ ซึ่งจะทำให้ในอนาคต บ้านเรือนสามารถผลิตไฟฟ้าและซื้อขายพลังงานไฟฟ้ากันเองได้ โดยนายจิรพัฒน์ได้ยกตัวอย่างให้เห็นภาพมากขึ้นว่า

“สมมติเรามีบ้าน 10 หลังที่ติดตั้งอุปกรณ์นี้อยู่ในละแวกเดียวกัน วันนี้ผมซักผ้า ซึ่งพลังงานบ้านผมไม่พอ แต่บ้านข้างๆ ไม่มีใครอยู่ ไม่ได้ใช้ไฟ ระบบมันก็จะไปดึงพลังงานที่บ้านข้างๆ ผลิตได้มาให้ผม แล้วก็บันทึกไว้ในบล็อกเชนว่าบ้านผมดึงมากี่หน่วย ส่วนตอนเย็น ผมออกไปข้างนอก แต่บ้านข้างๆ กลับมาแล้วมีการใช้ไฟ ไฟเกิดไม่พอ ก็อาจมาดึงไฟไปจากบ้านผม หรือบ้านอื่นๆ พอสิ้นเดือนก็หักกลบลบหนี้ออกมาว่าใครต้องจ่ายค่าไฟให้กันเท่าไร แล้วก็อาจจ่ายได้ด้วยเงินคริปโต เป็นต้น”

สำหรับการนำมาใช้นั้น สิริ เวนเจอร์สเผยว่า การลดค่าใช้จ่ายเป็นปัจจัยหนึ่ง แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการทำให้ลูกบ้านแสนสิริได้รับประสบการณ์เชิงบวกในเรื่อง Renewable Energy ซึ่งโครงการที่มีแนวโน้มจะนำไปใช้นั้น พบว่าเป็นโครงการบ้านแนวราบ อาทิ คณาสิริ พระราม 2 ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมแบบ high-rise ของแสนสิรินั้น นายจิรพัฒน์เผยว่าหลายโครงการสามารถนำนวัตกรรมนี้ไปใช้เพื่อให้ลูกบ้านควบคุมการใช้ไฟฟ้า ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และส่งเสริมให้เกิดการแบ่งปันการใช้พลังงานไฟฟ้าร่วมกันในชุมชนได้จริง และจะทยอยเปิดตัวต่อไปในอนาคต

นอกจากนั้น นายจิรพัฒน์ยังได้เผยถึงการนำบล็อกเชนไปใช้ในวงการ PropTech ด้วยว่า ในต่างประเทศเป็นกระแสที่แรงพอสมควร ยกตัวอย่างเช่น ประเทศสวีเดน ที่นำโฉนดที่ดินใส่ไว้ในบล็อกเชนแล้ว หรือในสหรัฐอเมริกา ก็พัฒนาไปสู่การซื้อขายบ้านและที่ดินผ่านบล็อกเชน และคิดมูลค่าบ้านเป็นเงินคริปโต

“อีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจคือเรื่องของ Asset Tokenization หรือก็คือการนำบ้านหนึ่งหลังมาแตกเป็นชิ้นเล็กๆ ให้คนที่อาจมีเงินไม่มากนักมาลงทุนในบ้านได้ ในอนาคต คนเราอาจเลือกลงทุนบ้านเป็นส่วนๆ ได้ เช่น ลงทุนในบ้านหลังนี้ 3,000 เหรียญ หลังนั้น 2,000 เหรียญ แล้วถ้าเกิดมีคนมาเช่า เราก็ได้ส่วนแบ่ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จริงๆ มันมีอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาค่อนข้างยุ่งยาก ต้องไปถึงสำนักงาน ต้องเซ็นเอกสาร ต่อไปนี้ก็ทำได้ผ่านเว็บไซต์ – บล็อกเชนแล้ว” นายจิรพัฒน์กล่าวปิดท้าย

นายจิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์

ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี บริษัทสิริ เวนเจอร์ส จำกัด