ผลสำรวจการใช้ซอฟต์แวร์ทั่วโลก ประจำปี 2560 ของบีเอสเอ I พันธมิตรซอฟต์แวร์ พบอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ หรือการใช้ซอฟต์แวร์โดยไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในประเทศไทย อยู่ที่ร้อยละ 66 ในปี 2560
คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 714 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (22,848 ล้านบาท) ลดลงจากร้อยละ 69 ในปี 2558 ในขณะที่อัตราเฉลี่ยของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอยู่ที่ร้อยละ 57
การลดลงของอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในประเทศไทย เป็นผลมาจากการหดตัวของตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer – PC) ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก. ปอศ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้เรื่องภัยจากการใช้ซอฟต์แวร์โดยไม่มีไลเซนส์อย่างต่อเนื่องของหน่วยงานอื่นๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน
นอกจากนี้ เหตุการณ์มัลแวร์เรียกค่าไถ่ระดับโลกอย่าง Wannacry ที่เกิดขึ้นเมื่อปีก่อน ทำให้องค์กรธุรกิจเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องใช้ซอฟต์แวร์แท้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบปฏิบัติการ และซอฟต์แวร์ที่ช่วยเสริมความมั่นคงปลอดภัยให้แก่ระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่าย นอกจากนี้ นักวิเคราะห์จากไอดีซี (IDC) ให้ความเห็นว่าการรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปแจ้งเบาะแสการใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายในองค์กรธุรกิจ ทำให้เกิดความตื่นตัวในการใช้ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์มากขึ้น โดยเฉพาะในองค์กรธุรกิจหันมาให้ความสำคัญกับการตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้ซอฟต์แวร์อย่างถูกต้องตามกฎหมายมากขึ้น
มร. ดรุณ ซอว์เนย์ ผู้อำนวยการอาวุโส ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บีเอสเอ I พันธมิตรซอฟต์แวร์ เผยว่าบีเอสเอร่วมกับบริษัทวิจัยชั้นนำระดับโลกอย่างไอดีซี (IDC) ทำการสำรวจการใช้ซอฟต์แวร์ทั่วโลก โดยล่าสุดได้ทำการสำรวจใน 110 ประเทศทั่วโลก พบว่าอัตราการละเมิดลิขสิทธิซอฟต์แวร์ หรือการใช้ซอฟต์แวร์โดยไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ อยู่ที่ร้อยละ 37 ในปี 2560 คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 46,302 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.48 ล้านล้านบาท) ลดลงจากร้อยละ 39 ในปี 2558 หากพิจารณาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ อยู่ที่ร้อยละ 57 ในปี 2560 คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 16,439 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (526,048 ล้านบาท) ลดลงจากร้อยละ 61 ในปี 2558
สำหรับในประเทศไทย อัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อยู่ที่ร้อยละ 66 ในปี 2560 คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 714 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (22,848 ล้านบาท) ลดลงจากร้อยละ 69 ในปี 2558 ตัวเลขในประเทศไทยแสดงให้เห็นว่า ในจำนวนคอมพิวเตอร์ 100 เครื่อง มีการติดตั้งซอฟต์แวร์เถื่อน 66 เครื่อง ทั้งนี้ อัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทยลดลง โดยในภาพรวมเป็นผลจากการหดตัวของตลาดเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมายลิขสิทธิ์อย่างเข้มงวด และการรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงภัยจากการใช้ซอฟต์แวร์โดยไม่มีไลเซนส์อย่างต่อเนื่อง
“อัตราการใช้ซอฟต์แวร์โดยไม่มีไลเซนส์ในประเทศไทยลดลงร้อยละ 3 ถือเป็นสัญญาณที่ดี แต่ยังสูงกว่าอัตราเฉลี่ยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 57 แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่ทุกภาคส่วนยังต้องช่วยกันแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังต่อไป และการแก้ไขปัญหาดังกล่าวยังช่วยลดความเสี่ยงภัยไซเบอร์ เพราะซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์มักจะมีจุดอ่อนด้านความปลอดภัย ทำให้ง่ายต่อการติดมัลแวร์” นางสาววารุณี รัชตพัฒนากุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บีเอสเอ I พันธมิตรซอฟต์แวร์ กล่าว
play youtube,
play youtube,
xnxx,
xhamster,
xvideos,
xnxx,
xxx,
sex việt,
Phim sex,
tiktok download,
MP3 download,
Fragrance Mont Blanc,
phim sex hay,
sex mex,
mp3play,
Crossing Jorden,
Related Posts
นิยามบล็อคเชนบล็อคเชนถือเป็นหนึ่งในโปรโตคอล (protocol) ขั้นพื้นฐาน ซึ่งโปรโตคอลเป็นคำศัพท์ทางเทคนิคหมายถึง ภาษามาตรฐานที่ช่วยให้ผู้คนจำนวนมากบนอินเทอร์เน็ตทำงานร่วมกันในการแก้ไขปัญหาแบบเฉพาะได้ ตัวอย่างของโปรโตคอลอินเทอร์เน็ตที่ได้รับความนิยมและนำมาใช้เป็นระยะเวลานาน ได้แก่ โปรโตคอลที่กำหนดวิธีการส่งข้อมูลไปบนเว็บ (HTTP) โปรโตคอลแอพ อีเมลที่ใช้สำหรับการส่งและรับอีเมล (SMTP) โปรโตคอลของเบราเซอร์สำหรับการถ่ายโอนข้อมูลที่ปลอดภัยหรือก็คือแม่กุญแจสีเขียวขนาดเล็กที่เบราเซอร์เมื่อชำระเงินด้วยบัตรเครดิต (SSL)
Blockchain เปลี่ยนโลกการเงินใครๆ ก็พูดถึงเทคโนโลยีบล็อกเชน (blockchain) แต่อาจจะยังมีผู้สงสัยว่า blockchain คืออะไร เพื่อให้เข้าใจกันได้ง่าย จึงขอเกริ่นให้ฟังก่อนว่า เทคโนโลยี blockchain เป็นของใหม่ที่ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อช่วยแก้ปัญหาการเชื่อมต่อที่ไม่ครบวงจร ซึ่งเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตปัจจุบันยังทำไม่ได้ และการปลดล็อกสิ่งแรกที่ทุกคนต่างก็สนใจคือเรื่องเงิน
เทคโนฯ 5G ดันปริมาณทราฟฟิคโลกพุ่งบ.อีริคสัน ประเทศไทย คาดการณ์ปริมาณข้อมูลบนแพลตฟอร์มโมบายเติบโตถึง 8 เท่าในช่วงระยะ 5 ปี โดย 5G จะมีสัดส่วนการใช้งานมากถึงร้อยละ 20 ของเครือข่ายทั้งหมดในโลกในอีก 5 ปีข้างหน้า