NIA ชี้ Smart Visa ช่วยดึงนักลงทุนสตาร์ทอัพ

11 May 2018 Startups

อย่างที่รู้กันว่าหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของการพัฒนาระบบนิเวศสำหรับสตาร์ทอัพคือเรื่องทรัพยากรมนุษย์ แต่ในบ้านเรา ปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งก็คือขาดแคลนคนที่มีทักษะสูงและมืออาชีพโดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีและต้นตอของการขาดแคลนก็สืบเนื่องจากนโยบายดั้งเดิมของรัฐบาลที่อนุมัติวีซ่าให้ต่างชาติ แม้แต่พวกที่มีใบอนุญาตทำงานก็สามารถอยู่ในเมืองไทยติดต่อกันได้ในเวลาอันจำกัด

เพื่อเป็นการขจัดอุปสรรค รัฐบาลไทยวันนี้ก็ได้ประกาศนโยบาย “สมาร์ทวีซ่า” อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นวีซ่าดีไซน์พิเศษมาให้สำหรับนักธุรกิจมืออาชีพและนักลงทุนโดยเฉพาะ โดยผู้ถือวีซ่าพิเศษนี้สามารถอยู่ในประเทศไทยได้นานตั้งแต่ 1 ปี ไปจนถึง 4 ปีเลย โดยไม่ต้องฝ่ารถติดไปโชว์ตัวกับเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่แจ้งวัฒนะทุกๆ 3 เดือนเหมือนวีซ่าทั่วไป

สำนักงานนวัตกรรมภายใต้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คาดหวังจะเห็นวีซ่าสามารถดึงดูดนักลงทุน สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีจากต่างชาติ ตลอดจนบรรดาผู้เชี่ยวชาญให้เข้ามาปักหลักทำงาน ทำธุรกิจในไทยกันมากขึ้น เพราะวีซ่านี้ไม่ได้ให้แค่เจ้าตัวเท่านั้น แต่ยังอนุญาตให้นำคู่สมรสและลูกเข้ามาอยู่ด้วยได้ โดยไม่ต้องขอใบอนุญาตทำงานหรือ work permit สิ่งที่ต้องทำก็แค่เดินทางไปแจ้งวัฒนะเพื่อรายงานตัวกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองปีละครั้ง

ดร. กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ด้านระบบนวัตกรรม กล่าวว่าผู้ยื่นขอสมาร์ทวีซ่านี้ ต้องเป็นนักลงทุนในธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยี หรือเป็นเทค สตาร์ทอัพ ผู้บริหารระดับสูงในธุรกิจนี้ ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญ โดยสาขาที่จะได้สิทธิถือวีซ่านี้ เช่น ซอฟว์ ดิจิทัล ออโต้ อุปกรณ์รักษาพยาบาล เทคโนโลยีด้านอาหารและชีวเศรษฐกรรม เป็นต้น

ในปีแรกนี้ ทางสำนักงาน NIA หวังว่าจะได้เห็นผู้ถือสมาร์ทวีซ่าจำนวนทั้งหมด 1,000 รายเป็นอย่างน้อย และร่วมร้อยคนก็น่าจะเป็นเจ้าของสตาร์ทอัพ โดยทางทรู อินคิวบ์ accelerator ของกลุ่มทรู คอร์ป ได้รับแต่งตั้งจาก NIA เป็นเจ้าแรกที่ได้เป็นผู้สามารถรับรองคุณสมบัติของสตาร์ทอัพที่จะมีสิทธิ์ขอเป็นผู้ถือสมาร์ทวีซ่าได้ โดยรายใดที่เข้าร่วมโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพของทรู อินคิวบ์ มีสิทธิยื่นขอวีซ่าประเภทพิเศษนี้ได้ทันที

ในอนาคต NIA ก็จะจัดโรดโชว์เพื่อโปรโมทโครงการสมาร์ทวีซ่าให้เป็นที่รู้จักกันมากขึ้นในหมู่ต่างชาติ