สตาร์ทอัพ Kuleana ทำเนื้อทดแทนทูน่าดิบ

7 August 2020 Technology

บริษัทอย่างอิมพอสสิเบิลฟู้ดส์ และบียอนมีทส์กำลังเป็นที่ถูกอกถูกใจผู้บริโภคด้วยการใช้ผักเป็นวัตถุทดแทนเนื้อสัตว์ แต่ที่ผ่านมายังไม่มีรายใดทำกับอุตสาหกรรมอาหารทะเล Kuleana สตาร์ทอัพในกลุ่ม Y Combinator มองเห็นช่องทางที่จะแหวกว่ายในมหาสมุทร

ในขณะที่ธุรกิจใหม่ๆ อย่างไวล์ดไทป์ ฟินเลสฟู้ด และชีออคมีทส์กำลังพัฒนาใช้เซลล์เป็นทางเลือกแทนทูน่า แซลมอนและกุ้ง ส่วนกู๊ดแคชและโอเชียนฮัคเกอร์ใช้ทูน่าทดแทนในแบบของตนเอง แต่ Kuleana กลับสร้างความแตกต่างโดยการใช้ผักทดแทนทูน่าดิบเกรดระดับซุชิทูน่า 

“และนั่นเป็นเพียงการเริ่มต้น เพราะบริษัทเตรียมพัฒนาทางเลือกแก่ชาววีแกน โดยขยายรวมถึงทูน่า แซลมอน ปลาและหอย”

จาเซ็ค พรุส ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ Kukena กล่าวและเสริมว่ายังไม่มีใครสามารถทำทูน่าดิบได้ดีจริง ๆ และบริษัทกำลังจะทำทูน่าดิบและต่อไปก็อาจจะเป็นแซลมอนด้วย

พรุสหันมาให้ความสนใจในอุตสาหกรรมอาหารหลังจากที่เขาได้เข้าเรียนด้านจรรยาบรรณในการใช้สัตว์ที่มหาวิทยาลัยเท็กซัสในออสติน หลังจากอยู่ในเมืองได้ห้าปี เขาได้ย้ายไปอยู่ยุโรปและช่วยก่อตั้งศูนย์บ่มเพาะ ProVeg International 

พรุสได้รู้จักกับรอน ชิเกต้า นักวิจัย นักเทคโนโลยีและผู้ประกอบการด้านวิทยาศาสตร์อาหารผู้ช่ำชองที่นี่ ซึ่งก่อนหน้านี้ชิเกต้าเป็นประธานเจ้าหน้าที่ด้านวิทยาศาสตร์ของ IndieBio ชิเกต้าได้พาพรุสให้รุ้จักกับโซเนีย ฮูรฺทาโด นักวิจัยด้านวิทยาศาสตร์อาหาร และทั้งสามได้ร่วมก่อตั้ง Kuleana (ต่อมาชิเกต้าได้ออกจากบริษัท)

ประสบการณ์ด้านฟู้ด แอคเซเลอเรเตอร์ทำให้พรุสผู้ซึ่งรับประทานเนื้อมาตลอดชีวิตตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย ได้พบกับทางเลือกใหม่ของโปรตีนและนำไปสู่ความคิดในการพัฒนาทางเลือกอาหารที่ให้รสและกลิ่นแบบปลามากขึ้น

พรุสกล่าวว่าทูน่าของ Kuleana ทำจากธาตุเหล็ก น้ำมันสาหร่ายและโปรตีนหลากหลายชนิดที่ผสมรวมกันอย่างเหมาะสม Kuleana นำเงินทุนขั้นต้น 50,000 ยูโรที่ได้จากกู๊ด ซีด เวนเจอร์ มาใช้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่จะทำให้บริษัทสามารถทำรสชาติและเนื้อของปลาดิบ โดยไม่ต้องใช้เทคนิคการพิมพ์สามมิติ (ซึ่งพรุสกล่าวว่านั่นทำให้ผลิตภัณฑ์และรสชาติดูเหมือน “ปรุงสุก”)

Kuleana เข้าถึงตลาดด้วยการติดต่อกับเชฟซูชิและร้านอาหารทั่วประเทศเพราะเป้าหมายแรกของบริษัทคือร้านอาหาร

“สิ่งที่เราพบคือประมาณ 60% ของอาหารทะเลเป็นการรับประทานนอกบ้าน และยิ่งถ้าเป็นประเภทอาหารทะเลดิบตัวเลขยิ่งสูงกว่านี้” พรุสกล่าวและว่า “เรากำลังทำมากกว่าธุรกิจบริการด้านอาหาร”

ภายในหนึ่งปี Kuleana อาจจะปรากฎตัวในร้านบางร้านในฐานะทูน่าทางเลือกสำหรับซูขิโร และโปเกะโบวล์ (ข้าวหน้าปลาดิบสูตรฮาวาย) ด้วยราคาที่พรุสบอกว่าแข่งขันได้กับทูน่าเกรดสูง

ทั้งนี้ Kuleana ประสบความสำเร็จในการทดสอบรสชาติสองแห่งคือที่บาเซโลน่าและซานฟรานซิสโก และบริษัทได้ระบุให้นักลงทุนทราบว่าได้รับหนังสือแสดงความสนใจหลายฉบับสั่งซื้อทูน่าทดแทนจากบริษัทมากกว่า 50,000 ปอนด์

“ส่วนที่ยากที่สุดไม่ใช่รสชาติทูน่า แต่มันคือตัวเนื้อ” พรุสกล่าว (คู่แข่งทั้งหลายกำลังใช้การแปรรูปแบบอัดเกลียวหรืออัดพองซึ่งมันไม่ได้ผลดี เรามั่นใจว่าสิ่งที่เรากำลังทำกับเทคโนโลยีไบโอเทคน่าจะเป็นวิธีหนึ่งที่ดีที่สุด) 

อ้างอิง : TechCrunch.com