จุฬาฯ ทุ่มทุนสร้างระบบนิเวศย่านนวัตกรรม เปิด Block 28 ชวนสุดยอดสตาร์ทอัพ DeepTech จากทุกคณะมาเปิดบริษัท ดึง Tuspark เปิดโชว์รูมแสดงนวัตกรรมดิจิทัลจีนสุดล้ำ ผนึกเอกชนThaiBev และ Kbank อัดฉีดทุน
ดร.ศันธยา กิตติโกวิท ผู้อำนวยการศูนย์กลางนวัตกรรม (CU Innovation Hub) ในฐานะผู้ช่วยอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยถึงวิสัยทัศน์ในการนำจุฬาลงกรณ์ฯไปสู่มหาวิทยาลัยแห่งศตวรรตที่ 21 ประกอบด้วย 3 เสาหลัก คือ 1.Entrepreneur University สร้างผู้ประกอบการเริ่มต้นและบัณฑิตพันธุ์ใหม่ที่เชี่ยวชาญเทคโนโลยีและนวัตกรรม 2.Research to Commercial นำงานวิจัยและพัฒนาของนิสิตนักศึกษาหรือคณาจารย์ได้คิดค้นขึ้นไปสู่การประกอบธุรกิจเชิงพาณิชย์ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก และ 3.Community Development สร้างระบบนิเวศพื้นที่โดยรอบสวนหลวง – สามย่าน และถนนพระราม 4 ให้เป็นย่านนวัตกรรมทันสมัยรองรับการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพที่จุฬาฯ ผลิตขึ้น พร้อมกับประสานความร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชนร่วมสนับสนุนทุน และดึงความร่วมมือระหว่างต่างประเทศเข้ามาลงทุนหรือแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เทคโนโลยีดิจิทัลร่วมกัน
ดร.ศันธยา กล่าวว่าสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (PMCU) ได้สร้างย่านนวัตกรรมใจกลางเมือง ชื่อ “Block 28 Co-Creative” เป็นโครงการอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น จำนวน 5 อาคาร มีพื้นที่รวม 15,000 ตารางเมตร เป็นพื้นที่สำหรับให้นักธุรกิจสตาร์ทอัพคนรุ่นใหม่ สาย DeepTech ศิษย์เก่าจุฬาฯ ที่ประสบความสำเร็จและต้องการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพเข้ามาเช่าพื้นที่เปิดสำนักงาน พร้อมกับส่งเสริมให้ Block 28 เป็นศูนย์รวมนวัตกรรมและเทคโนโลยีทันสมัยของบรรดาสตาร์ทอัพได้แสดงผลงานและความสามารถ
โดยจุฬาฯ ยังได้มีความร่วมมือกับ Tuspark หรือ อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัย Tsinghua ประเทศจีน ตกลงเข้ามาเช่าพื้นที่เพื่อตั้งศูนย์การแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงของจีนขึ้นในประเทศไทยเป้าหมายเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เทคโนโลยีดิจิทัลร่วมกัน
ทั้งนี้ Block 28 จะเป็นแหล่งบ่มเพาะสตาร์ทอัพหน้าใหม่ โดยมี CU Innovation Hub ให้คำปรึกษาและเปิดพื้นที่แห่งโอกาสโดยจะรวบรวมบริษัท Startup จากนิสิตนักศึกษาจุฬาฯ ที่สามารถ Spin off เป็นบริษัทจากผลงานวิจัยพัฒนา สิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรม หรือ เทคโนโลยีที่ตัวเองคิดค้นขึ้นและมีความเป็นไปได้สูงทางธุรกิจ อาทิ บริษัท Spin off ภายในคณะเภสัชศาสตร์ เช่น Meticuly สตาร์ทอัพที่สามารถสร้างกระดูกเทียมด้วยแร่ไททาเนียม JuiceInnov8 สตาร์ทอัพสายสุขภาพที่สามารถเปลี่ยนน้ำตาลในผลไม้ให้มีปริมาณแคลอรี่ต่ำส่งผลดีต่อสุขภาพ BAIYA phytopharm สตาร์ทอัพที่กำลังคิดค้นวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันไวรัส Covid-19 หรือ NABSOLUTE สตาร์ทอัพที่สามารถผลิตสเปรย์ทำความสะอาดหน้ากากอนามัยสุดไฮเทคฯ และยังไอเดียสตาร์ทอัพดีๆ จากคณะอื่นตามมาอีกมากมาย อาทิ คณะแพทยศาสตร์ คณะสัตวศาสตร์ หรือ คณะทันตแพทย์ ฯลฯ
CU Innovation Hub ยังเป็นพื้นที่บ่มเพาะและแหล่งเรียนรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกิดขึ้นจากไอเดียสตาร์ทอัพนำมาเผยแพร่ให้ประชาชนได้ศึกษาเรียนรู้ เช่น การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ เกษตรแนวดิ่ง หรือ Vertical Farm โดย noBitter สตาร์ทอัพสายเกษตรนวัตกรรม ที่ได้รับการบ่มเพาะจาก CU Innovation Hub ให้ความรู้การปลูกผักในเมืองไว้รับประทาน
นอกจากนี้พื้นที่ Siam Innovation District ต้องการเพิ่มพื้นที่สนับสนุนสตาร์ทอัพและต้องการต่อยอดธุรกิจ โดยใช้พื้นที่ศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน เป็นศูนย์กลางให้ผู้สนับสนุนจากภาคเอกชนเข้ามาลงทุน เนื่องจากปัจจุบันจุฬาฯ ได้จัดตั้ง CU Enterprise บริษัทลูก หรือ Holding company ของมหาวิทยาลัย ปัจจุบันมีเอกชน 3 รายใหญ่ให้การสนับสนุน คือ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด ธนาคารกสิกรไทย และ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) จะเข้ามาลงทุนกับธุรกิจสตาร์ทอัพ
ทั้งนี้ Siam Innovation District พร้อมกับเป็นสถานที่จัดการบรรยาย กิจกรรม นิทรรศการและสถานที่จัดแสดงตัวอย่างนวัตกรรมฝีมือคนไทย มีฐานข้อมูลด้านนวัตกรรม และ co-working space รวมถึงในอนาคตจะมีโครงการ Pitching Startup เพื่อสนับสนุนการเพิ่มศักยภาพและการจัดตั้งธุรกิจเกิดใหม่ โดยเปิดกว้างให้บุคคลทั่วไปเข้าร่วมแข่งขันไม่จำกัดเฉพาะสตาร์ทอัพในรั้วจุฬาฯ เท่านั้น รวมถึงได้จัดทำหลักสูตรระหว่างประเทศ Bachelor of Arts and Science in Integrated Innovation (BAScii) ผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่ออกมาแล้ว 2 รุ่น ซึ่งเป็นหลักสูตรเพื่อสร้างสตาร์ทอัพพันธุ์ใหม่เพื่อมาตอบโจทย์ในการนำงานวิจัยและพัฒนาที่อยู่ในสถาบันการศึกษาไปใช้ประโยชน์เชิงธุรกิจ พร้อมกับสามารถประยุกต์เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาผสมผสานเพื่อนำไปสู่การประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพได้จริงจนประสบความสำเร็จในอนาคต