Mercedes-Benz จับมือ Nvidia ร่วมพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่สำหรับรถยนต์

8 July 2020 Technology

แพลตฟอร์มใหม่จะทำงานบนเทคโนโลยีชิปโอรินของ Nvidia และจะใช้ชุดซอฟแวร์ไดร์ฟ เอจีเอ๊กซ์ เต็มชุด โดย Nvidia ได้เปิดตัวโอรินครั้งแรกในงานซีอีเอสเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งนอกเหนือจากสเปคที่แรงมากอย่างความสามารถในการปฏิบัติงานที่ 200 ล้านล้านต่อวินาทีและใช้พลังงานน้อยลงบริษัทก็ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ แต่อย่างใด

โดยแพลตฟอร์มใหม่นี้ได้แก่ ชุดระบบซอฟต์แวร์เต็มชุดที่สามารถรองรับ แอปพลิเคชันการขับขี่แบบอัตโนมัตได้หลากหลาย เช่น ระบบผู้ช่วยขับทันสมัยอย่างออโต้ไพลอทของเทสล่าและซูเปอร์ครุยส์ของคาดิแลค รวมทั้งฟังก์ชั่นการจอดแบบไร้คนขับหรือสมาร์ทซัมมอนของเทสล่า

เทคโนโลยีนี้จะทำให้สามารถอัพเดทซอฟท์แวร์ต่างๆของรถยนต์เมอร์ซิเดสด้วย การอัพเดทซอฟต์แวร์ผ่านทางอากาศ (OTA) เหมือนที่ใช้งานในสมาร์ทโฟนซึ่งจะเริ่มใช้งานในอีก 4 ปี ที่ผ่านมาผู้ผลิตรถยนต์แบบเดิมๆ วิ่งไล่ตามเทคโนโลยีนี้ของเทสล่าไม่ทัน โดยเทสล่าเป็นผู้นำการอัพเดทซอฟต์แวร์แบบ OTA แก่ลูกค้าซึ่งสามารถอัพเดทได้ตั้งแต่ระบบผู้ช่วยขับออโต้ไพลอทไปจนถึงระบบรถไฟฟ้า ซึ่งคล้ายๆกับที่แอปเปิลและซัมซุงอัพเดทหรือซ่อมซอฟต์แวร์  สมาร์ทโฟน

ระบบขับของ Nvidia สามารถจับตำแหน่งศีรษะและสายตาของผู้ขับเพื่อดูว่าผู้ขับขี่มีสมาธิกับท้องถนนและสามารถวัดความถี่การกระพริบตาเพื่อตรวจดูว่าคนขับง่วงหรือไม่ ทั้งนี้ Nvidia กล่าวว่าระบบสามารถแจ้งคนขับผ่านการเตือนด้วยเสียง สายตาหรือการสัมผัส เพื่อให้คนขับมีสมาธิกับท้องถนนไดร์ฟไอเอ๊กซ์จะมีระบบเตือนหรือป้องกันประตูไม่ให้เปิดจนกว่าผู้ขี่จักรยานจะผ่านไปอย่างปลอดภัยแล้ว

จีเอ็ม เป็นค่ายผู้ผลิตรถยนต์รายหนึ่งที่ได้นำระบบ OTA มาใช้งานหลังจากเทสล่า ค่ายฟอร์ดเปิดเผยเมื่อเร็วๆนี้ว่าจะเริ่มเปิดตัวการอัพเดทซอฟต์แวร์กับรถยนต์ของตนรุ่นปี 2020 ส่วนเดมเลอร์ก็ได้ร่วมการอัพเดทซอฟต์แวร์นี้แล้ว “ด้วยการดาวน์โหลดฟังก์ชั่นใหม่ๆ และอัพเกรดผ่านคลาวด์เราต้องการให้ระบบอัพเดทอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับยานพาหนะ”

โอล่า คาลเลนเนียนประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเดมเลอร์ กล่าว ทั้งนี้การแถลงดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงทีมีกระแสข่าวว่าบริษัทแม่ของเมอร์ซิเดสคือเดมเลอร์สิ้นสุดความร่วมมือในระบบขับขี่อัตโนมัติกับบีเอ็มดับเบิลยูซึ่งก็ไม่ได้เกินความคาดหมายจากนักวิเคราะห์อุตสาหกรรมยานยนต์แต่อย่างใด โดยยักษ์ใหญ่รถยนต์สัญชาติเยอรมนีทั้งสองนี้ได้ประกาศความร่วมมือมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อต้นปี 2019 ในการขยายการผลิตรถยนต์ไร้คนขับ ได้แก่บริการยานพาหนะส่วนบุคคล สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าบริการรถยนต์ร่วมเดินทางและชาร์ตแบตรถไฟฟ้า แต่เมื่อเร็วๆ นี้ทั้งสองบริษัทได้ออกมาเปิดเผยว่าจะชะลอแผนความร่วมมือเกี่ยวกับรถยนต์ไร้คนขับไว้ก่อน

ทั้งนี้ เว็บไซต์ ออโต้ นิวส์วิเคราะห์ว่าความร่วมมือกับบีเอ็มดับเบิลยูทำให้เมอร์ซิเดสไม่สามารถใช้เทคโนโลยีได้เร็วเท่าที่สามารถทำได้กับ Nvidia “เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ” แซม อาบูเอลซามิด นักวิเคราะห์จากไกด์เฮาส์กล่าวและอธิบายเพิ่มว่าผู้ผลิตรถยนต์ทั้งสองค่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องแพล็ตฟอร์มที่จะใช้และขณะนี้แพล็ตฟอร์มโอรินดูเหมือนจะเป็นทางออกที่ทรงพลังมากกว่าใครในกลุ่ม Intel/Mobileye (บีเอ็มดับเบิลยูอยู่ในกลุ่มของซูเปอร์กรุ๊ป ได้แก่ อินเทล โมบิลอายและเฟียต ไคร์สเลอร์ซึ่งร่วมกันทำงานพัฒนาเทคโนโลยีไร้คนขับเพื่อการผลิตรถยนต์) อาบูเอซามิด ชี้ว่ายังไม่ชัดเจนว่าชุดซอฟต์แวร์ของ Nvidia จะทำงานได้ดีแค่ไหนเมื่อเทียบกับโซลูชั่นอื่นๆ “Nvidia เน้นที่ระบบซอฟต์แวร์เครือข่ายกลางๆ และอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ก็กำลังปรับย้อนไปสู่ไอเออัลกอลิทึ่มผสมผสานระหว่างแบบคำนวณตายตัวและแบบความน่าจะเป็น Nvidia เป็นผู้ผลิตการ์ดจอคอมพิวเตอร์ชั้นนำของโลกซึ่งได้ร่วมสร้างหัวใจสำคัญๆ อันเป็นพลังของรถยนต์ไร้คนขับด้วยความหวังว่าจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้ผลิตรถยนต์อย่าง วอลโว่ โฟคสวาเกนและเดมเลอร์ Nvidia ซึ่งอยู่ในซานตาคลาร่า ต้องการจะเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ให้แก่บริษัททั้งหลายที่กำลังจะเป็นผู้ดำเนินการเกี่ยวกับยานยนต์ไร้คนขับ

อ้างอิง: theverge.com