ต้องยอมรับว่าการต่อสู้กับ Fake News ในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น เป็นเรื่องที่ยากลำบากมากสำหรับแบรนด์ และมีการประเมินกันว่า Fake News นั้นคือภัยเบอร์ต้นๆ ของแบรนด์ในทุกวันนี้เลยทีเดียว ข่าวดีก็คือ ได้มีสตาร์ทอัพรายหนึ่งจากอิสราเอล ชื่อ Cyabra Strategy…
วิกฤตไวรัสโคโรน่าไม่ส่งผลกระทบไมโครซอฟท์แต่อย่างใด แต่ตรงกันข้ามผลประกอบการบริษัทในไตรมาสล่าสุดกลับแข็งแรงเป็นอย่างมากจากการเติบโตของธุรกิจคลาวน์
ไมโครซอฟท์รายงานการเติบโตรายได้สูงถึง 15 เปอร์เซนต์ จาก 14 เปอร์เซนต์ของช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ซึ่งตลาดหุ้นวอลสตรีทเคยคาดการณ์ว่าบริษัทจะโตเพียง 11 เปอร์เซนต์
สัตยา นาเดลล่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า “เราได้เห็นความคุ้มค่าของการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลจากสองปีภายในช่วงสองเดือน” การเพิ่มขึ้นของการทำงานที่บ้านและเรียนหนังสือที่บ้านพร้อมๆกับความต้องการโครงสร้างพื้นฐานของคลาวน์ที่มากขึ้น คือปัจจัยเบื้องหลังของการเติบโตดังกล่าว
สัตยาเผยว่า คำสั่งให้อยู่บ้านและกฎระยะห่างทางสังคมที่ปฏิบัติกันทั่วไปในช่วงกลางเดือนที่ผ่านมานำไปสู่ “โลกของทุกสรรพสิ่งทางไกล” ซึ่งเสริมให้มีการใช้แพล็ตฟอร์มและบริการของไมโครซอฟท์อย่างมากมาย เขาประเมินว่าวิกฤตนี้จะตามด้วยสิ่งที่เป็นระยะ “ไฮบริด” หรือการผสมผสาน ซึ่งผู้คนทำงานบางอย่างที่บ้าน บางอย่างทำที่สำนักงาน นำไปสู่การสร้างความต้องการเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงการปฏิบัติการที่ซับซ้อนมากขึ้นที่หลายบริษัทจะต้องเจอ
การกลับเข้าสู่การดำเนินธุรกิจปกติจะทำให้สิ่งที่เป็นการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างชัดเจนยิ่งขึ้นจากวิกฤตครั้งนี้ เพราะกิจกรรมหลายอย่างที่เติบโตขึ้น เช่นการแพทย์ทางไกล การเรียนทางไกลจากปิดเมืองหรือปิดประเทศได้รับประสบการณ์ถาวรจากการเปลี่ยนแปลงในกิจกรรมดังกล่าว
ทั้งนี้ไฟแนนเชียลไทม์เปิดเผยว่า ในไตรมาสสุดท้ายรายได้จากธุรกิจคลาวน์คอมเมอร์เชียลของบริษัทพุ่งขึ้นถึง 39 เปอร์เซนต์ หรือ 13,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เฉพาะรายได้จากอาซู (Azure) ซึ่งเป็นแพล็ตฟอร์มคลาวน์ของไมโครซอฟท์เพิ่มขึ้นถึง 59 เปอร์เซนต์ เทียบกับ 55 เปอร์เซนต์จากไตรมาสที่แล้ว
ไมโครซอฟท์เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่รายแรกที่ออกมาเตือนถึงผลกระทบจากไวรัสโคโรน่า โดยเผยว่าในเดือนกุมภาพันธ์ส่วนธุรกิจระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์พีซีของบริษัทน่าจะลดลง โดยบริษัทวิจัยการ์ทเนอร์เปิดเผยว่าตัวเลขยอดขายพีซีใหม่ในไตรมาสแรกของปีลดลง 12 เปอร์เซนต์
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารไมโครซอฟท์กล่าวว่า ซัพพลายเชนของคอมพิวเตอร์พีซีในประเทศจีนฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดการณ์ ยอดขายในส่วนของคอมพิวติ้งส่วนตัวโตขึ้น 3 เปอร์เซนต์ หรือคิดเป็น 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากที่บริษัทคาดการณ์ช่วงก่อนเกิดวิกฤตไวรัส ทั้งนี้โดยภาพรวม ไมโครซอฟท์รายงานว่าบริษัทมีรายได้ 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไรต่อหุ้น 1.40 ดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับ 30,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 1.14 ดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว โดยวอลสตรีทได้คาดการณ์ว่ารายได้ของบริษัทจะมี 33,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐและกำไรต่อหุ้นที่ 1.28 ดอลลาร์สหรัฐ
Reference: Financial Times