Thai Livestream จ่อพัฒนาโรงเรียนออนไลน์ เสริมอีเลิร์นนิ่ง-สตรีมมิ่ง

30 April 2020 Startups

Thai Livestream แพลตฟอร์ม สตรีมมิ่ง-อีเลิร์นนิ่ง สตาร์ทอัพไทยแปรวิกฤต Covid-19 เป็นโอกาสเตรียมขยายธุรกิจ พัฒนา “โรงเรียนออนไลน์” รับกระแส New Normal

ณัฐพร สุชาติกุลวิทย์ ผู้บริหาร บริษัท Thai Livestream สตาร์ทอัพ MediaTech เปิดเผยว่า สถานการณ์ Covid-19 ส่งผลให้งานเทศกาลอีเวนต์ ประชุม สัมนา ฯลฯ บริการถ่ายทอดสดออนไลน์และจัดทำระบบสตรีมมิ่งนอกสถานที่ ถูกยกเลิกไปทั้งหมด บริษัทจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนทิศทางธุรกิจใหม่ เป็น 2 ส่วน คือการให้บริการถ่ายทอดสดทางออนไลน์ งานอีเวนต์ ประชุม สัมนาฯลฯ ในห้องสตูดิโอ ผ่านแพลตฟอร์ม FrogLive และช่องทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม เช่น YouTube, Facebook, Twitter , Instagram ตามที่ลูกค้าต้องการ

ส่วนที่สอง คือบริการอี-เลิร์นนิ่ง ที่ให้กับลูกค้าทั้งสถาบันการศึกษาที่อยู่ระหว่างการเลื่อนเปิดภาคเรียนออกไปเนื่องจากสถานการณ์ Covid-19 แต่ยังต้องเรียนออนไลน์อยู่กับบ้าน ระบบการสอบ หรือการทดสอบประเมินผลเพื่ออกใบวุฒิบัตรแก่สถาบันกวดวิชาที่เปิดให้บริการการเรียนการสอนทางออนไลน์ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐหรือบริษัทเอกชน ที่ต้องการจัดประชุม ฝึกอบรม หรือ สัมมนาแก่พนักงานทางออนไลน์ จึงเลือกใช้บริการอี-เลิร์นนิ่งให้ความรู้และข้อมูลพนักงานเป็นการชั่วคราว

ณัฐพร กล่าวว่า ธุรกิจของบริษัทขยายตัวสูงมาก โดยเฉพาะแพลตฟอร์มอี-เลิร์นนิ่ง จากเดิมเติบโตเพียง 27% เพิ่มสูงเป็น 40% จึงปรับทิศทางธุรกิจ เช่น เพิ่มพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็นสตาร์ทอัพสายการศึกษาเข้ามาร่วมธุรกิจเพื่อช่วยดูแลและบริการลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้นจนพนักงานของบริษัทเกินกำลังจะให้บริการได้ทัน โดยยังใช้แพลตฟอร์มของบริษัทที่เป็นผู้พัฒนาระบบการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายและเทคโนโลยี

นอกจากนี้ขยายตัวแทนจำหน่ายเอเยนซี่เพื่อรองรับปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้นและปรับรูปแบบการขายและการให้บริการโดยเน้นสร้างคุณค่าและลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น ส่งมอบงานเร็วและตอบโจทย์ปัญหาลูกค้าเป็นหลัก ในระยะกลางมุ่งดึงว่าที่ลูกค้าในอนาคต ทั้งที่เป็นภาครัฐ บริษัทเอกชน หรือประชาชนทั่วไปเข้ามาเป็นลูกค้าใหม่ของบริษัทให้มากที่สุด และแผนธุรกิจระยะยาว คือจะพัฒนาระบบการเรียนออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพเป็นเสมือน “โรงเรียนออนไลน์” แพลตฟอร์มให้บริการแก่ลูกค้ามีไว้ใช้เป็นของตัวเองรองรับกระแส “New Normal”

“ในอนาคตทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ต้องมีระบบการเรียน หรือการทำงานทางออนไลน์เป็นของตัวเอง เพื่อลดความเสี่ยงและลดความสูญเสียหากสถานการณ์ Covid-19 กลับมาเกิดขึ้นอีก”