NIA takes four measures pooling startups and innovation to cope with Covid-19 pandemic, linking HealthTech…
วิกฤต Covid-19 สร้างโอกาสให้ EdTech เมื่อ School Bright ลงนามบันทึกความเข้าใจกับกระทรวงศึกษาธิการ วางระบบบริหารการศึกษาดิจิทัล 500 โรงเรียนทั่วประเทศ
School Bright สตาร์ทอัพ EdTech เซ็นต์ MoU กระทรวงศึกษาธิการ 1 ปี วางระบบบริหารการศึกษาดิจิทัล 500 โรงเรียนทั่วประเทศ พร้อมอบรมครูและระบบติดตามประเมินผลการเรียนออนไลน์
นรินทร์ คูรานา ประธานกรรมการ บริษัท จับจ่าย คอร์ปอเรชั่น จำกัด สตาร์ทอัพ EdTech ผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม “School Bright” ระบบบริหารการศึกษาดิจิทัล เปิดเผยว่าบริษัทได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับกระทรวงศึกษาธิการเพื่อเตรียมพร้อมพัฒนาระบบการเรียนการสอนออนไลน์และการบริหารจัดการโรงเรียนด้วยดิจิทัล จำนวน 500 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่ระดับอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอาชีวะศึกษา โดย School Bright จะเข้าไปอบรมในพื้นที่และทางออนไลน์ รวมทั้งการให้คำปรึกษา ระยะเวลาโครงการ 1 ปี เพื่อปรับระบบการเรียนการสอนและการบริหารจัดการโรงเรียนให้มีความทันสมัยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
ทั้งนี้ ระบบการเรียน “ในห้องเรียน” เป็นการเรียนออนไลน์ที่ครูสามารถติดตามประเมินผลการเรียนการสอนของเด็กที่เรียนผ่านออนไลน์จากหลายแพลตฟอร์มตามที่แต่ละโรงเรียนเลือกใช้บริการจากสตาร์ทอัพ เช่น Skilllane คอร์สเรียนออนไลน์ ภาษา ไลฟ์สไตล์ ธุรกิจ, voxy คอร์สเรียนออนไลน์ ภาษาอังกฤษ, Coursesquare คอร์สเรียนออนไลน์ ไอที ภาษาและธุรกิจ, Quest คอร์สเรียนออนไลน์สอนภาษาอังกฤษ หรือ PASAA-D สอนภาษาไทยและภาษาอังกฤษแก่เด็ก เป็นต้น โดยการติดตามประเมินผลและให้คะแนนเด็กที่เข้ามามีส่วนร่วมการเรียนการสอนทางออนไลน์แบบเรียนที่บ้าน (Home School) อยู่ในแพลตฟอร์มเดียวของ School Bright สะดวกต่อการทำงานของครูและโรงเรียน รวมถึงระบบสั่งการบ้าน ระบบเช็คชื่อ ระบบแจ้งเวลา และระบบบัตรนักเรียนดิจิทัล เป็นต้น
สำหรับระบบการบริหารจัดการ “นอกโรงเรียน” ด้วยดิจิทัล ได้แก่ ระบบรับสมัครออนไลน์, ระบบจ่ายค่าเทอมทางออนไลน์, ระบบบริหารสหกรณ์ หรือโรงอาหารด้วยระบบดิจิทัล เป็นต้น เป้าหมายเพื่อลดภาระการทำงานที่ซ้ำซ้อนที่ไม่จำเป็น
“Covid-19 เหมือนสถานการณ์สร้างโอกาสทางธุรกิจแก่สตาร์ทอัพ EdTech และช่วยวางรากฐานการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องทุ่นแรงครูให้จัดการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในและนอกห้องเรียน”
นายนรินทร์ กล่าวว่าหลังจากสถานการณ์ Covid-19 ทิศทางการศึกษาไทยและทั่วโลกจะมีลักษณะเดียวกันคือ มุ่งสู่การเรียนทางออนไลน์และการบริหารจัดการศึกษาด้วยระบบดิจิทัล แม้การเรียนการสอนแบบเข้าชั้นเรียนยังมีความจำเป็นอยู่ แต่จะเป็นไปในลักษณะคู่ขนานกัน เช่นเดียวกับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมที่ปรับตัวด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ทำงานอยู่กับบ้าน (Work from Home) Covid-19 ได้ปูพื้นฐานใหม่แห่งการศึกษาไทยให้เด็กไทยได้เรียนรู้เท่าทันโลกดิจิทัล ครูหรือโรงเรียนจะปฏิเสธหรือเมินเฉยต่อการปรับตัวเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เพราะเทคโนโลยีดิจิทัลมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน