ไมโครซอฟท์ซื้อ DataSense เสริมศักยภาพ คลาวด์แพลตฟอร์ม Azure

12 February 2019 Technology

ภาคการศึกษาเป็นหนึ่งในธุรกิจเก่าแก่และใหญ่ที่สุดซึ่งใช้ Azure แพลตฟอร์มการประมวลผลแบบคลาวด์ของไมโครซอฟท์ และล่าสุด ไมโครซอฟท์ประกาศซื้อแพลตฟอร์ม DataSense จาก BrightBytes บริษัทเทคโนโลยีด้านการศึกษา โดยหวังว่าจะเพิ่มขีดความสามารถได้มากขึ้น

DataSense เป็นแพลตฟอร์มจัดการข้อมูล ที่ใช้จัดเก็บ ผสานรวม รายงานข้อมูลจากแอปพลิเคชันและบริการด้านการศึกษาออนไลน์ต่างๆ โดยทางไมโครซอฟท์จะนำเอาปฏิบัติการของแพลตฟอร์มดังกล่าวไปไว้ใน Azure

BrightBytes กล่าวว่า DataSense เป็นแพลตฟอร์มหลัก ซึ่งใช้โดยเจ้าหน้าที่การศึกษาและบรรดาโรงเรียน เพื่อรับและรายงานข้อมูลให้แก่รัฐและผู้มีอำนาจหน้าที่ โดยจะจัดการกับแอปพลิเคชันที่แตกต่างกัน และแหล่งข้อมูลอื่นๆ ก่อนหน้าที่จะถูกไมโครซอฟท์ซื้อไป DataSense ถือเป็นแพลตฟอร์มที่มีขีดความสามารถสูง โดยปัจจุบันได้นำมาใช้เพื่อจัดการกับข้อมูลของนักเรียนนักศึกษาในสหรัฐอเมริกานับล้านๆ คน และการที่ไมโครซอฟท์ซื้อแพลตฟอร์มดังกล่าวไป จะช่วยให้มันเติบโตอย่างทรงพลังยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ไม่มีการเปิดเผยจำนวนเงินของดีลการซื้อ-ขายดังกล่าว อย่างไรก็ดี ในปี 2558 ที่มีการระดมทุนจากนักลงทุนครั้งล่าสุด  BrightBytes มีมูลค่า 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการระดมทุนรอบดังกล่าว คิดเป็นมูลค่า 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นำโดย Insight Venture Partners  ซึ่งจับมือกับ Bessemer Learn Capital และ Rethink Education

ทั้งนี้ BrighBytes สามารถระดมทุนรวมได้ทั้งสิ้นมากกว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐเล็กน้อย โดยมีนักลงทุนรายอื่นๆ ร่วมด้วย อาทิ New Schools Venture Fund และ Andy Pechacke โดยทาง BrightBytes จะยังคงให้ความสำคัญกับ Clarity ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มในการนำข้อมูลต่างๆ มาวิเคราะห์  ซึ่งโรงเรียนในสหรัฐอเมริกากว่า 25,000 แห่งได้นำแพลตฟอร์มดังกล่าวมาใช้

“เรารู้สึกตื่นเต้นยินดีที่การซื้อ-ขายนี้ทำให้พันธกิจของเราก้าวสู่ระดับโลกเร็วขึ้น” Traci Burgess CEO ของ BrightBytes กล่าวในแถลงการณ์ “โรงเรียนทั่วโลกจะได้รับประโยชน์อย่างมหาศาลจากประสิทธิภาพในการรวมกันของข้อมูล รวมทั้งการทำงานร่วมกันของระบบหรือโครงสร้างข้อมูล และกระบวนการเตรียมการใช้ข้อมูล”

ดีลดังกล่าวยังรวมถึงคนของ BrightBytes ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ซานฟรานซิสโก คนเหล่านี้ทำงานกับผลิตภัณฑ์ DataSense มาโดยตลอด การดึงคนมาทำงานนี้จะทำให้ลูกค้าปัจจุบันได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันพวกเขาจะได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ในอนาคตไปด้วย

คนของไมโครซอฟท์ไม่ได้ระบุว่าจะมีคนของ BrightBytes มากี่คน โดยอธิบายว่า “ทีมที่ไม่เกี่ยว หลักๆ จะประจำที่เมืองแอตแลนตาในรัฐจอร์เจีย ขณะที่ทีมเล็กจะมาร่วมกับทีมการศึกษาของไมโครซอฟท์”

ไมโครซอฟท์จะผสานรวม DataSense เข้ากับแพลตฟอร์ม Azure เพื่อให้บริการแก่โรงเรียนและนักการศึกษาได้ดีขึ้น ทั้งจะยังคงเชื่อมโยงเข้ากับแพลตฟอร์ม Clarity เช่นที่เป็นอยู่

“ในเดือนที่จะถึงนี้ เราตื่นเต้นที่จะเริ่มนำเทคโนโลยี DataSense มาใช้กับผลิตภัณฑ์ของเราเพื่อมอบบริการหนึ่งเดียวที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นให้แก่โรงเรียนต่างๆ โดยจะช่วยให้โรงเรียนเหล่านี้นำการวิเคราะห์ข้อมูลมาใช้ได้อย่างทรงพลัง” Steve Liffick ผู้จัดการทั่วไปด้านกลยุทธ์การศึกษาและแพลตฟอร์มของไมโครซอฟท์กล่าวในแถลงการณ์ ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์จะยังคงให้บริการลูกค้า Datasense ที่มีอยู่ขณะนี้ด้วย

BrightBytes และไมโครซอฟท์ต่างมีเป้าหมายเดียวกัน โดยมองว่า การศึกษาเป็นธุรกิจซึ่งต้องใช้ข้อมูลปริมาณมหาศาล แต่ก็ยังคงมีระบบไอทีที่มีการวางโครงสร้างพื้นฐานแบบเก่าหรือล้าสมัยอยู่สูงมาก รวมทั้งมีข้อมูลกระจัดกระจายอย่างมหาศาล

ขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านการศึกษาเริ่มอัพเดตระบบที่ตนมีเพื่อให้ทำงานร่วมกับรัฐบาลและองค์กรอื่นๆ ได้ดีขึ้น ทั้งยังพยายามจัดการกับข้อมูลในระบบที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น บริษัทอย่าง Microsoft และ BrightBytes ก็ได้ก้าวเข้ามาเพื่อให้ความช่วยเหลือพวกเขา

ในส่วนของบริษัท Microsoft  นั้นปฏิบัติการในหลายระดับ ทั้งการให้บริการด้านฮาร์ดแวร์ จัดการสื่อสารกับผู้ใช้แพลตฟอร์ม นับตั้งแต่พวกครูและนักเรียน ไปจนถึงแอดมินด้านไอที นอกจากนี้ยังให้บริการผ่านซอฟต์แวร์ ระบบคลาวด์ การฝึกอบรมและอื่นๆ อีกมาก โดยดีลที่เกิดขึ้นนั้น มุ่งให้แอดมินไอทีผู้เอื้อให้ทุกอย่างปฏิบัติการต่อไปได้ใช้เป็นหลัก  ซึ่งที่สุดแล้ว มันจะส่งผลต่อข้อมูลที่จะมีผลกระทบต่ออื่นๆ อีกมาก