NIA ตั้งเป้าดันไทยติดท็อป 30 ดัชนีนวัตกรรมโลกปี 2030

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เล็งไกลดันไทยทะยานติดอันดับดัชนีนวัตกรรมโลกติดท็อป 30 ภายใน 2030 ผ่านการสร้างแบรนด์ “อินโนเวชั่นเนชั่น” พร้อมปั้น 3,000 องค์กรนวัตกรรมสากล

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เล่าถึงเป้าหมายการสร้างนวัตกรรมในทศวรรษหน้า 2020-2030 ซึ่งขึ้นสู่ทศวรรษที่ 3 ของไทยที่มุ่งส่งเสริมนวัตกรรมและ 1 ทศวรรษของการเป็นองค์การมหาชน

NIA ตั้งเป้าภายในปี 2030 จะยกระดับขีดความสามารถนวัตกรรมไทยติดท็อป 30 ดัชนีนวัตกรรมโลก จากอันดับ 44 ภายในปี 2561

“เราจะใช้ยุทธศาสตร์องค์กรนวัตกรรมที่เป็นสากลจำนวน 3,000 ธุรกิจ โดยเป็นธุรกิจระดับใหญ่ กลาง และเล็ก จนถึงสตาร์ทอัพที่จะร่วมพัฒนา ร่วมทุนกับต่างชาติ สร้างนวัตกรรมในผลิตภัณฑ์และบริการในประเทศไทย หรือการออกไปเปิดตลาดต่างประเทศ ไทยจะเป็น Landing และ Launching pad ให้กับบริษัทต่างชาติ”

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า ไทยมีบริษัทจดทะเบียน 3 ล้านธุรกิจ บริษัทที่มีนวัตกรรมที่เปิดตลาดต่างประเทศได้มีน้อยมาก และส่วนมากเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีหลายสายธุรกิจ เราหวังให้มี 0.1% หรือ 3,000 ธุรกิจที่เป็นนวัตกรรมสากล

การบรรลุเป้าหมายจะต้องใช้การสร้างแบรนด์ภาพจำ การเป็น “อินโนเวชั่นเนชั่น” โดยเป็นประเทศและมีเมืองที่มีนวัตกรรมและมีสภาพแวดล้อมนิเวศที่ส่งเสริมนวัตกรรม ทั้งการลงทุนและความน่าอยู่ ผ่านกฎระเบียบเอื้ออำนวยความสะดวกและการจับคู่ธุรกิจให้พบพันธมิตร

NIA จะร่วมลงบันทึกความเข้าใจกับกระะทรวงการต่างประเทศ ที่สร้างความร่วมมือนวัตกรรมในประเทศต่างๆ เป็นทูตนวัตกรรม ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีความร่วมมือกับประเทศญี่ปุ่นและอิสราเอลแล้ว

นอกจากนั้นจะให้น้ำหนักกับการกระจายศูนย์นวัตกรรมไปยังระดับภูมิภาค เมือง ชุมชน และพื้นที่ที่เป็นย่านนวัตกรรม พร้อมทั้งต้องคาดการณ์อนาคตที่จะเกิดขึ้นผ่านสถาบันการมองอนาคตนวัตกรรม

NIA จะให้น้ำหนักกับการสร้างพันธมิตรเครือข่ายนวัตกรรม หรืออินโนเวชั่นอีโคซิสเต็มส์ เป็น 80% และการให้ทุนส่งเสริมนวัตกรรม 20% จากเดิมการให้ทุนเป็น 80% ของกิจกรรมและงบรวม

ในปีที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรมเชิงเศรษฐกิจที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก NIA จำนวน 193 โครงการ แบ่งเป็นนวัตกรรมมุ่งเป้า 17 โครงการ มูลค่าการสนับสนุน 46.5 ล้านบาท ก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุน 257.4 ล้านบาท และนวัตกรรมแบบเปิด 176 โครงการ มูลค่าการสนับสนุน 180.9 ล้านบาท ก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุน 2,253.5 ล้านบาท

สำหรับกลุ่มนวัตกรรมเพื่อสังคมจะเน้นตอบโจทย์การยกระดับสังคม ชุมชน ให้เกิดความยั่งยืนผ่านกลไกต่างๆ ทั้งในรูปแบบองค์ความรู้ เครือข่าย และเงินทุน โดยปีที่ผ่านมาสนับสนุนโครงการนวัตกรรมเพื่อสังคมจำนวน 39 โครงการ เกิดเป็น 15 เครือข่าย สร้างผลกระทบเชิงสังคม 208.56 ล้านบาท