สิงค์เทล จับมือเอไอเอส ชูแพลตฟอร์ม VIA กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดนรายแรกของเอเชีย หนุนอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว เล็งไกล สร้างเครือข่ายชำระเงินผ่านมือถือระหว่างประเทศของอาเซียน
อาเธอร์ แลงก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มสิงค์เทลอินเตอร์เนชั่นแนล ระบุว่า บริการชำระเงินผ่านมือถือข้ามพรมแดน จะอำนวยความสะดวกให้นักเดินทางใช้โมบายวอลเล็ตที่มีอยู่เดิมไปชำระเงินค่าสินค้าและบริการในประเทศอื่นๆ ที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกันได้ และชำระเงินด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่ตัวเองต้องการได้
การเชื่อมกระเป๋าเงินบนมือถือจากบริการของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในกลุ่มสิงค์เทลเข้าด้วยกัน ผ่านแพลตฟอร์มกลาง VIA ทำให้โมบายวอลเล็ตของแต่ละค่ายข้ามพรมแดน จะช่วยสร้างความแตกต่างของโมบายวอลเล็ตในเครือข่ายของสิงค์เทล และเพิ่มประสบการณ์การชำระเงินผ่านมือถือให้กับลูกค้าของพันธมิตรทุกราย ซึ่งจะส่งผลดีกับฐานลูกค้ากว่า 300 ล้านคนใน 4 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่สิงค์เทลเข้าไปลงทุน ทั้งสิงคโปร์ เอไอเอส Globe ฟิลิปปินส์ และ Telkomsel อินโดนีเซีย และหากรวม AirTel ของอินเดีย จะทำให้บริษัทมีฐานลูกค้า 700 ล้านคน
VIA ของสิงค์เทลเป็นโอเพ่นแพลตฟอร์ม จะเป็นเหมือนสตาร์อะลายแอนซ์ของสายการบิน เราจะเป็นแพลตฟอร์มเปิดกว้างเพื่อให้มีร้านค้ารับชำระเงินให้มากที่สุด ที่จะลดการพกเงินสด
โดยสิงค์เทล ร่วมมือกับเอไอเอส เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์รายแรก ซึ่งทำให้ผู้ใช้บริการโมบายวอลเล็ต เอ็มเปย์ของเอไอเอส และผู้ใช้แรบบิทไลน์เปย์ที่เอไอเอสเข้าไปถือหุ้น สามารถนำโมบายวอลเล็ตมาชำระเงินในร้านค้าเครือข่ายของ dash โมบายวอลเล็ตของสิงค์เทล
ปี 2560 พบว่ามีตัวเลขนักท่องเที่ยวกว่า 80 ล้านคนเดินทางไปยังประเทศในเอเชียที่กลุ่มสิงค์เทลให้บริการ โดยยังมีร้านค้ารายย่อยอีกจำนวนมากที่รับเฉพาะเงินสด ดังนั้นจากการที่ภูมิภาคนี้มีการเข้าถึงบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระดับสูง การชำระเงินผ่านมือถือจึงเป็นทางเลือกที่สะดวกและปลอดภัยสำหรับนักเดินทาง
บริการนี้จะช่วยเสริมโอกาสการสร้างรายได้ให้กับเอสเอ็มอีและร้านค้าที่รับโมบายวอลเล็ต ด้วยต้นทุนค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าบัตรเครดิตและขยายโอกาสเข้าถึงลูกค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้น สร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจภูมิภาค จากปัจจุบันมีเครือข่ายชำระเงินของจีน 2 รายใหญ่เท่านั้นที่รับชำระข้ามพรมแดน
สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส เล่าเสริมว่า บริการนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าของเอไอเอสในการจับจ่ายใช้สอยด้วยแอปฯ my AIS ที่ใช้ระบบชำระเงินของ Rabbit LINE Pay กว่า 5 ล้านคน เมื่อเดินทางไปสิงคโปร์
ผู้ใช้บริการ Dash ของสิงค์เทลกว่า 500,000 ราย เมื่อเดินทางมายังประเทศไทย เพียงเปิดแอปฯ Dash เพื่อสร้าง QR Code แล้วให้ร้านค้าที่รับชำระผ่าน mPAY สแกน ผู้ใช้บริการจะเห็นจำนวนเงินที่จะทำธุรกรรมทั้งในสกุลเงินบาทและดอลลาร์สิงคโปร์ก่อนการชำระเงิน ซึ่งจะช่วยให้นักเดินทางไม่ต้องวุ่นวายกับการพกพาเงินสด รวมถึงเผชิญกับปัญหาส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความผันผวน
เรามองว่าตลาดนี้ยังขยายไปได้อีกมาก โดยเอไอเอสมีลูกค้ามือถือกว่า 40 ล้านราย และผู้ใช้ไลน์ในไทยอีก 42 ล้านราย ซึ่งจะสร้างฐานการเติบโตให้กับ Rabbit LINE Pay ในอนาคต
และเมื่อร่วมกับพันธมิตรกสิกรไทย ทำให้มีร้านค้ารวมกว่า 1.5 ล้านราย ทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้านอาหาร และสตรีทฟู้ด และจะเพิ่มอีก 1 ล้านรายที่จัดรับชำระเงินเร็วๆ นี้
ปัจจุบัน เอไอเอส มี Global Pay ระบบชำระเงินแบบ B2B และการเข้าไปลงทุนใน Rabbit Line Pay ของเอไอเอสที่สนับสนุน B2C และล่าสุดความร่วมมือกับสิงค์เทล ในการชำระเงินระหว่างประเทศ