ไอบีเอ็มและธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ประกาศความร่วมมือมูลค่า 4,700 ล้านบาท ภายใต้ระยะเวลา 5 ปี เตรียมพร้อมสู่การเป็นดิจิทัลแบงกิ้งในอนาคตของธนาคาร
หัวเวย เทคโนโลยีส์ ประเทศไทย ลงทุน 700 ล้านบาท เตรียมเปิดให้บริการ public cloud ในประเทศไทย ร่วมชิงตลาด 48,000 ล้านบาทในปี 2021
การให้บริการคลาวด์แก่ลูกค้าองค์กรและธุรกิจของหัวเวยสร้างความแตกต่างจากผู้ให้บริการคลาวด์รายอื่น อาทิ อาลีบาบา ไมโครซอฟท์ อเมซอน เว็บเซอร์วิส และกูเกิล ซึ่งดาต้าเซนเตอร์ล้วนตั้งอยู่นอกประเทศไทย
นายเจิง ยี่หลาย ประธานฝ่ายธุรกิจคลาวด์ บริษัท หัวเวย เทคโนโลยี ประเทศจีน กล่าวว่า ด้วยเศรษฐกิจของประเทศไทยที่เติบโตอย่างรวดเร็วอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลและการลงทุนของบริษัทจีนในประเทศไทย โดยหัวเวยได้ตั้งศูนย์ดาต้าเซนเตอร์ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะในเขตเศรษฐกิจตะวันออก และจะมีการให้บริการอย่างเป็นทางการในปลายเดือนนี้
การมีดาต้าเซนเตอร์ตั้งอยู่ในประเทศไทยจะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ให้บริการรายอื่นซึ่งมีศูนย์ดาต้าเซนเตอร์ในฮ่องกงและสิงคโปร์
บริการพับลิคคลาวด์ในประเทศไทยมุ่งให้บริการลูกค้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยกเว้นสิงคโปร์ ซึ่งหัวเวยจะเน้นให้บริการแก่กลุ่มเอนเทอไพรส์ ราชการ และผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ
นอกจากนี้ การมีดาต้าเซนเตอร์ในประเทศยังเป็นการสนับสนุนอธิปไตยของข้อมูล ซึ่งสอดคล้องกับข้อกำหนดของธุรกิจสำคัญอย่างธนาคารและโรงพยาบาลที่จะต้องเก็บข้อมูลลูกค้าไว้ในประเทศ
ในปี 2025 แอปพลิเคชั่นหลักๆ จะอยู่บนคลาวด์ และร้อยละ 85 ของงานธุรกิจก็จะอยู่บนคลาวด์
ทั้งนี้ บริษัทวิจัยไอดีซีประเมินว่า ภายในปี 2021 การใช้จ่ายของธุรกิจเอนเทอไพรส์ในคลาวด์ในประเทศไทย ทั้งเรื่องของฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการต่างๆ จะมีมูลค่าถึง 48,000 ล้านบาท
อ้างอิง : Bangkok Post