ไอบีเอ็มเผยผลสำรวจผู้บริหารระดับสูงทั่วโลก พบร้อยละ 72 มองว่า ‘ธุรกิจดั้งเดิม’ (Incumbent) ยังเป็นผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญและมีบทบาทในทุกอุตสาหกรรม ไม่ใช่บริษัทสตาร์ทอัพหรือผู้เล่นหน้าใหม่
อันเป็นผลมาจากการที่กลุ่มธุรกิจดั้งเดิมครอบครองข้อมูลมหาศาลและสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีได้อย่างมีประสิทธิภาพ การมีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมของตนมานานหลายสิบปี และการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น คลาวด์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และบล็อกเชน ที่ช่วยสร้างนวัตกรรมแปลกใหม่จนกล่าวได้ว่ากลุ่มธุรกิจดั้งเดิมคือผู้ที่มีอิทธิพลต่อการสร้างแรงสะเทือนในอุตสาหกรรม (Incumbent Disruptor)
ผลการศึกษาล่าสุดโดยสถาบันการศึกษาคุณค่าทางธุรกิจของไอบีเอ็ม (IBM Institute for Business Value) ที่สำรวจความคิดเห็นและสัมภาษณ์เชิงลึกผู้บริหารระดับสูงกว่า 12,800 คนจากบริษัทชั้นนำทั่วโลก ยังชี้ให้เห็นว่ามีผู้บริหารเพียงร้อยละ 22 ที่มองว่าบริษัทขนาดเล็กและบริษัทสตาร์ทอัพเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ขณะที่ 1 ใน 3 ระบุว่าได้รับผลกระทบน้อยมากหรือไม่ได้รับผลกระทบเลยจากความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมของตน
“ก่อนหน้านี้ราว 1 ปี เราเชื่อว่าบริษัทขนาดใหญ่และธุรกิจดั้งเดิมทั่วโลกกำลังเผชิญความเสี่ยงที่จะถูกแทรกแซงและแย่งตำแหน่งโดยบริษัทสตาร์ทอัพและผู้เล่นหน้าใหม่ที่เชี่ยวชาญด้านดิจิทัล ซึ่งความเข้าใจนี้มีส่วนจริง หลายบริษัทได้ก้าวผ่านระยะแรกของการถูกสั่นคลอนโดยผู้มาใหม่และบรรดาบริษัทสตาร์ทอัพที่เก่งๆ มาแล้ว” นายเจมส์ โคสิส พาร์ทเนอร์และรองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจไอบีเอ็ม โกลบอล บิสสิเนส เซอร์วิส บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าว
“อย่างไรก็ดี เรากำลังจะเข้าสู่ยุคใหม่ของธุรกิจที่นวัตกรรมคลื่นลูกใหม่อย่างปัญญาประดิษฐ์ คลาวด์ และบล็อกเชน รวมถึงประสบการณ์ยาวนานที่ผู้มาใหม่ไม่สามารถลอกเลียนหรือเอาชนะได้ จะสร้างข้อได้เปรียบและเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจดั้งเดิมกลับมาเป็นผู้สร้างแรงสั่นสะเทือนในอุตสาหกรรม” นายเจมส์ เสริม
ข้อมูลได้กลายเป็นสินทรัพย์ที่ทรงพลังที่สุดของบริษัทที่ก่อตั้งมานาน กล่าวคือ ข้อมูลในโลกนี้มีเพียงร้อยละ 20 เท่านั้นที่เป็นข้อมูลสาธารณะที่สามารถสืบค้นได้ผ่านอินเทอร์เน็ตขณะที่ธุรกิจดั้งเดิมเป็นเจ้าของข้อมูลถึงร้อยละ 80 ของข้อมูลทั่วโลก ข้อมูลเหล่านี้เป็นผลมาจากการผสานรวมความรู้เชิงลึก ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของบุคลากรในองค์กรมาอย่างยาวนาน โดยกลุ่มธุรกิจดั้งเดิมได้นำข้อมูลเหล่านี้มาใช้เพื่อปรับปรุงองค์กรและกระบวนการต่างๆ พร้อมดึงนวัตกรรมคลื่นลูกใหม่อย่างปัญญาประดิษฐ์ บล็อกเชน และคลาวด์ เข้ามาเสริมความสามารถในการถอดรหัสข้อมูลและเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ผู้เล่นหน้าใหม่จะสามารถต่อกรกับพวกเขาได้ง่ายๆ
ผลการศึกษายังพบว่าร้อยละ 43 ของกลุ่มธุรกิจดั้งเดิมที่มีอิทธิพลต่อการสร้างแรงสะเทือนในอุตสาหกรรมมีแนวโน้มที่จะลงทุนในปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีค็อกนิทิฟ เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของตน เปรียบเทียบกับกลุ่มบริษัทอื่นๆ ที่ลงทุนเพียงร้อยละ 25 เท่านั้น
นอกจากนี้ ความสามารถในการใช้ข้อมูลเพื่อระบุความต้องการที่ซ่อนอยู่ของลูกค้าถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จำแนกกลุ่มองค์กรผู้นำออกจากกลุ่มอื่น โดยร้อยละ 80 ของกลุ่มผู้นำระบุว่าพวกเขาสามารถค้นหาความต้องการที่ลูกค้าบอกว่ายังไม่ได้รับการตอบสนองได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมองว่าพวกเขาสามารถทำงานนี้ได้ดีกว่ากลุ่มอื่นๆ ถึง 3 เท่า
ในการสำรวจของไอบีเอ็มเมื่อปี 2015 ผู้บริหารระดับสูงร้อยละ 54 มองภาวะการแข่งขันจากผู้เล่นต่างอุตสาหกรรมว่าจะรุนแรงขึ้น แต่ 2 ปีต่อมา ตัวเลขดังกล่าวลดลงถึงครึ่งหนึ่งเหลือเพียงร้อยละ 26 โดยแม้แต่ในอุตสาหกรรมที่มีความไม่แน่นอนสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไป เช่น อุตสาหกรรมบริการทางการเงินและค้าปลีก ที่บรรดาธุรกิจสตาร์ทอัพและยักษ์ใหญ่ในวงการดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก แต่ธุรกิจดั้งเดิมที่เดินหน้าสร้างนวัตกรรมต่อเนื่องก็ยังถือว่ามีส่วนอย่างมากในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
ผลการศึกษายังชี้ให้เห็นว่ากลุ่มที่คาดว่าจะเป็นผู้สร้างแรงสะเทือนในธุรกิจกลับไม่สามารถฝ่าด่านเข้ามาได้ กล่าวคือการมีบทบาทสำคัญของยักษ์ใหญ่ในวงการดิจิทัลทำให้ธุรกิจสตาร์ทอัพและกองทุนร่วมลงทุน (VC) ที่ให้เงินทุนสนับสนุนเริ่มหวั่นเกรง โดยเมื่อเร็วๆ นี้ จำนวนธุรกิจสตาร์ทอัพในสหรัฐอเมริกาได้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 40 ปี ขณะที่การระดมทุนครั้งแรก รวมถึงการระดมทุนแบบ Angel และ Seed ลดลง โดยเงินทุนได้ย้ายไปสู่ข้อเสนอของบริษัทสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นและบริษัทที่ค่อนข้างมั่นคงแล้ว
นอกจากนี้ ธุรกิจดั้งเดิมยังเริ่มนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาใช้มากขึ้นร่วมกับการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีและการบริหารทักษะบุคลากร และในบางกรณีก็มีการเข้าซื้อกิจการที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในธุรกิจเพื่อให้แข่งขันได้ในยุคดิจิทัล
play youtube,
play youtube,
xnxx,
xhamster,
xvideos,
xnxx,
xxx,
sex việt,
Phim sex,
tiktok download,
MP3 download,
Fragrance Mont Blanc,
phim sex hay,
sex mex,
mp3play,
Crossing Jorden,
Related Posts
เบื้องหลังบอลโลกปริมาณข้อมูลที่เกิดขึ้นในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 นั้นมากมายมหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อ และถ้าบริษัทหรือนักวิเคราะห์จะใช้ข้อมูลที่เกิดขึ้นนี้ย่อมเกิดประโยชน์ยิ่งใหญ่ กูเกิลเองก็มีทีมที่ดูแลด้านนี้โดยเฉพาะ มีการนำเสนอข้อมูลให้ฟีฟ่าโดยการใช้ประโยชน์จากการค้นหาข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงพร้อมภาพประกอบให้ผู้ใช้งานได้เพลิดเพลิน
ไมโครซอฟต์รองรับชื่ออีเมลภาษาไทยไมโครซอฟต์ ประเทศไทย ประกาศรองรับการใช้งานอีเมลภาษาไทย สำหรับบริการและแอปพลิเคชันอีเมลต่างๆ เช่น Office 365, Outlook 2016, Outlook.com, Exchange Online และ Exchange Online…